11 ทริคการใช้ JavaScript Command Line ที่มีประโยชน์ต่อการทำงาน
12-มี.ค.-25
คัมภีร์เทพ IT
JavaScript เป็นที่รู้จักในวงกว้างและถูกใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งในบทความนี้จะมาแนะนำ 11 ทริคการใช้ JavaScript Command Line ที่มีประโยชน์ต่อการทำงาน ซึ่งทริคเหล่านี้มีทั้ง NodeJS และ JavaScript มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
1. Run Code โดยตรงด้วย -e Flag ของ Node
-e Flag ใน Node จะช่วยให้เราสามารถ Run JavaScript Code ได้โดยตรงจาก Command Line
2. ใช้ --inspect-brk ของ Node สำหรับการ Debug ด้วย Chrome DevTools
--inspect-brk Flag ใน Node จะช่วยให้เราสามารถ Debug Code ได้ง่ายขึ้นโดยจะหยุดทำงานที่บรรทัดแรกของ Code แล้วเชื่อมต่อกับ Chrome DevTools เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดได้
สามารถทำได้ดังนี้:
- chrome://inspect
- คลิกที่ “inspect:
จากนั้น Chrome DevTools จะถูกเปิดขึ้น และ Code ของเราจะหยุดอยู่ที่บรรทัดแรก
สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง เมื่อเราต้อง Debug Scripts สำหรับ CI
3. ใช้ npx เพื่อ Run Package โดยไม่ต้องติดตั้ง
npx จะช่วยให้เราสามารถ Run Local หรือ Global Packages โดยไม่ต้องติดตั้งอย่างถาวร ซึ่งทำให้ไม่ต้องไปยุ่งวุ่นวายกับ Global หรือ Project Dependencies ของเรา
4. ใช้ child_process เพื่อ Run Shell Commands
child_process Module ใน Node จะช่วยให้เราสามารถ Run Shell Commands ได้โดยตรงภายใน JavaScript Program ได้ ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการ Run Scripts หรือทำ Automation
หลังจาก Run node script.mjs:
5. เปิดโหมด Verbose ด้วย --trace-warnings
--trace-warnings Flag ใน Node จะช่วยให้มันแสดง Stack Traces แบบละเอียดสำหรับ Warning ต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์ปัญหาได้ง่ายขึ้น
เมื่อเรา Run node — trace-warnings script.js เราจะได้รับผลลัพธ์ที่ครอบคลุมมากขึ้นพร้อม Stack Traces สำหรับ Warning ต่าง ๆ:
หากไม่ใช้ --trace-warnings เราจะได้ผลลัพธ์จะสั้นลงและมีรายละเอียดที่น้อยลง:
6. บันทึก Output ลงใน File
การบันทึก Output ลงใน File นั้น มีประโยชน์อย่างยิ่งในกรณีที่เราต้องจัดการกับ Output หรือ Logs ที่มีขนาดใหญ่
เราสามารถบันทึก Output จาก console.log() ลงใน File ได้โดยตรงด้วยการ Run: node script.js > output.txt
7. ใช้ console.table() เพื่อแสดงข้อมูลแบบตาราง
console.table() Method จะช่วยให้การแสดง Arrays หรือ Objects ดูอ่านและเข้าใจได้ง่ายขึ้นกว่าการใช้ console.log()
Output:
8. วัดประสิทธิภาพของ Code ด้วย console.time() และ console.timeEnd()
เราสามารถใช้ console.time('label') และ console.timeEnd('label') เพื่อวัดระยะเวลาในการทำงานของ Code ได้ ซึ่งมีประโยชน์ในการวัดประสิทธิภาพในเชิงลึกได้
Output:
9. จัดการ Signals ใน Node (SIGINT, SIGTERM)
เราสามารถใช้ process.on('SIGINT', callback) หรือ process.on('SIGTERM', callback) เพื่อจับ Signals และจัดการการ Shutdowns หรือ Cleanup Operations ให้เรียบร้อยเมื่อ Node Application ถูกปิดลง
Output:
10. วิเคราะห์ประสิทธิภาพ V8 Profiler ด้วย –prof
--prof Flag ใน Node จะช่วยให้เราเปิดใช้งาน V8 Profiler ซึ่งจะสร้าง Log โดยละเอียดที่สามารถใช้ในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของ Script ของคุณได้
จากนั้น:
- ทำการ Run node — prof script.js จะเป็นการสร้าง Log File: solate-0xXXXXXXXXXXXX-v8.log ขึ้นมา
- ใช้ --prof-process ของ Node เพื่อวิเคราะห์ Log: node — prof-process isolate-0xXXXXXXXXXXXX-v8.log > prof-output.txt
Output File คือ prof-output.txt จะมีข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับ Execution Times ของ Function และ CPU Usage ซึ่งจะช่วยระบุ Performance Bottlenecks ใน Code ของคุณ
11. Run หลาย Scripts พร้อมกันด้วย npm-run-all
npm-run-all Package จะช่วยให้เราสามารถ Run หลาย ๆ Scripts พร้อมกันได้ ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากใน CI/CD Pipeline เพื่อเพิ่มความเร็วให้กับ Tasks ต่าง ๆ เช่น Linting และ Testing
ให้กำหนดสิ่งต่อไปนี้ใน package.json ของคุณ:
จากนั้น Run: npm run lint-and-test
คำสั่งนี้จะ Run Lint และ Test ได้พร้อมกัน ซึ่งจะช่วยลดเวลาการทำงานโดยรวมลง ซึ่งมันมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับ CI/CD Pipeline
ที่มา: https://levelup.gitconnected.com/
รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert
อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ
บทความล่าสุด