Git Isn’t Just for Source Code: Surprising Use Cases and Applications
05-Mar-25
คัมภีร์เทพ IT
See the original english version Click here!
สำหรับคนไอทีแล้ว เชื่อว่าน่าจะรู้จัก Git กันแทบทุกคน ซึ่งส่วนใหญ่คงใช้สำหรับจัดการกับ Code เป็นหลัก แต่อันที่จริงมันทำได้มากกว่านั้น ดังนั้น บทความนี้จะมาแนะนำ 10 ตัวอย่าง การใช้ประโยชน์จาก Git กับงานที่คุณคาดไม่ถึง
1. Document Version Control
เราสามารถใช้ Git เพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงและจัดการ Versions ของไฟล์หรือเอกสารต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเมื่อมีหลายคนที่เกี่ยวข้องและแก้ไขเอกสารพร้อม ๆ กัน
การนำไปประยุกต์ใช้:
- Technical Documentation: ผู้เขียนสามารถดูประวัติการแก้ไข, ติดตามการเปลี่ยนแปลง และทำงานร่วมกันได้ง่ายและสะดวก
- Research Papers: นักวิชาการสามารถบันทึก Timeline ของการแก้ไขและลองร่างเอกสารในหลาย ๆ Versions ได้
- Contracts & Policies: ทีมกฎหมายสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขทุกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่า มีความโปร่งใส
ประโยชน์:
- มีประวัติการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด
- สามารถย้อนกลับไปใช้ Version เก่า ๆ ได้
- ทำงานร่วมกันผ่าน Pull Request หรือ Branch ได้
ตัวอย่าง: ใช้ Git กับไฟล์ Markdown เพื่อสร้าง Workflow การเขียนและเผยแพร่ Content ที่เป็นระบบได้
2. ติดตาม Configuration Files
ในการตั้งค่า Servers, Applications หรือ Networks นั้น Configuration Files ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ถ้ามีข้อผิดพลาดขึ้นมาก็อาจทำให้ระบบล่มได้ แต่การใช้ Git จะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านั้นได้
การนำไปประยุกต์ใช้:
- Server Configurations: ติดตามการเปลี่ยนแปลงของ Configuration Files เช่น Nginx, Apache รวมทั้งการตั้งค่าอื่น ๆ ของ Server
- Infrastructure as Code (IaC): ใช้ Git จัดการ Version ของ Terraform หรือ Ansible Scripts
- Environment Variables: เก็บไฟล์ .env อย่างปลอดภัยและสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้
ประโยชน์:
- สามารถย้อนกลับไปใช้การตั้งค่าที่เสถียรกว่าได้
- ช่วยให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่นในกรณีที่มี Admin หลายคน
- มีประวัติการเปลี่ยนแปลงเพื่อใช้ตรวจสอบและแก้ไขปัญหา
3. จัดการ Design Assets
ทีมออกแบบสามารถใช้ Git ในการควบคุม Version ของไฟล์ขนาดใหญ่ ๆ เช่น รูปภาพ วิดีโอ และ Design Prototypes ได้ง่ายขึ้น โดยใช้ Tool อย่าง Git LFS (Large File Storage)
การนำไปประยุกต์ใช้:
- Graphic Design: ติดตามการแก้ไขไฟล์ PSD, AI หรือ SVG
- Video Production: บริหารจัดการ Scripts, Storyboards และ Video Projects
- UI/UX Prototypes: เก็บ Versions ต่าง ๆ ของ Prototype
ประโยชน์:
- มีประวัติการเปลี่ยนแปลงของไฟล์ที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ
- สามารถทำงานร่วมกับ Developers ใน Workflow เดียวกันได้
- ย้อนกลับไปใช้ Versions เก่า ๆ ได้ง่าย
4. Data Science Projects
งานด้าน Data Science มักจะมี Datasets, Notebooks และ Scripts ที่ต้องอัปเดตอยู่เสมอ ซึ่ง Git จะเข้ามาช่วยให้สามารถจัดการกับประวัติการเปลี่ยนแปลงได้ง่ายขึ้น
การนำไปประยุกต์ใช้:
- Dataset Versioning: ติดตามการเปลี่ยนแปลงของไฟล์ CSV, JSON หรือ Databases
- Notebook Management: ควบคุม Version ของ Jupyter Notebook หรือ R Notebooks
- Experiment Logs: ติดตามและเก็บรักษาประวัติของการ Train Model หรือผลการทดลอง
ประโยชน์:
- ทำให้การทดลองสามารถทำซ้ำ (Reproducibility) ได้
- สามารถทำงานร่วมกันได้แบบไม่ซ้ำซ้อน
- ใช้ร่วมกับ CI/CD ได้ง่าย
เคล็ดลับ: สามารถใช้ DVC (Data Version Control) กับ Git เพื่อจัดการ Datasets ขนาดใหญ่ได้
5. การเขียนและเผยแพร่ Blog
คุณสามารถใช้ Git เพื่อบริหารจัดการกับพวก Drafts, Revisions และ Final Versions ได้ โดยเฉพาะถ้าใช้ Tool อย่าง Jekyll, Hugo หรือ Gatsby ร่วมกับ Git จะช่วยให้ผู้เขียนสามารถเผยแพร่ Blog ได้โดยตรงจาก Repositories ของพวกเขา
การนำไปประยุกต์ใช้:
- Content Management: ใช้กับ Markdown หรือ HTML Blog Posts
- Collaborative Writing: เขียนบทความร่วมกับนักเขียนคนอื่น ๆ
- Content Deployment: ใช้ Git Hooks เพื่อช่วย Deploy Bog
ประโยชน์:
- จัดการ Workflow ของการแก้ไขและเผยแพร่ได้ง่าย
- มีประวัติการแก้ไขเพื่อใช้อ้างอิงได้
- อัปเดต Website ให้อัตโนมัติโดยใช้ CI/CD
6. จัดการ Personal Knowledge
Git สามารถถูกใช้เป็น Versioned Notebook ได้ สามารถใช้ Tools อย่าง Obsidian หรือ Notion ร่วมกับ Git เพื่อเก็บความรู้และอัปเดตเนื้อหาต่าง ๆ ได้ง่าย
การนำไปประยุกต์ใช้:
- Learning Journals: จดบันทึกและติดตามความคืบหน้าใน Topics ใหม่ ๆ
- Code Snippets: เก็บรักษา Repository ของ Code ส่วนที่มักนำมาใช้งานบ่อย ๆ
- Personal Wikis: บันทึกและจัดระเบียบความรู้
ประโยชน์:
- เก็บข้อมูลอย่างเป็นระเบียบ
- แชร์ความรู้บางส่วนกับคนอื่น ๆ ได้
- มีระบบที่สำรองข้อมูลไว้บน Cloud
7. ผลิตเพลง/ดนตรี
นักดนตรีและ Audio Producers สามารถใช้ Git ในการติดตาม Versions ของไฟล์เสียงและ Audio Projects ของพวกเขาได้ การใช้ Git กับ Git LFS จะช่วยให้สามารถติดตามขั้นตอนการประพันธ์ทั้งหมดได้
การนำไปประยุกต์ใช้:
- Audio Editing: จัดการไฟล์ของ DAW Project เช่น FL Studio, Logic Pro
- Sample Libraries: จัดการ Version ของ Sound Samples และ Loops
- Collaborative Composition: ทำงานร่วมกับศิลปินคนอื่น ๆ ได้
ประโยชน์:
- หลีกเลี่ยงการเสียเวลาทำงานหลายชั่วโมงเนื่องจากไฟล์เสียหายหรือเกิดข้อผิดพลาด
- ทำงานร่วมกับคนอื่นได้ง่าย
- จัดทำเอกสารและทบทวนขั้นตอนต่าง ๆ ของการประพันธ์ได้
8. งานวิจัยด้านวิชาการและ Open Science
นักวิจัยมักต้องจัดการกับ Data, Analysis Scripts และ Publications ซึ่งต้องมีการจัดการ Versions และมีการทำงานร่วมกันกับคนอื่น ๆ อย่างเป็นระบบ
การนำไปประยุกต์ใช้:
- Data Analysis: ติดตาม Scripts เพื่อให้สามารถทำการวิเคราะห์ซ้ำได้
- Open Science: แชร์ผลงานของคุณสู่สาธารณะเพื่อความโปร่งใส
- Grant Proposals: จัดการร่างและแก้ไขเอกสารสำหรับขอทุนวิจัย
ประโยชน์:
- เพิ่มความสามารถในการทำซ้ำของงานวิจัย
- อำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันได้
- ปฏิบัติตามข้อกำหนดของหน่วยงานให้ทุนที่ต้องการความโปร่งใส
9. การพัฒนาเกม
นักพัฒนาเกมสามารถใช้ Git จัดการได้ไม่ใช่แค่ซอร์สโค้ด แต่รวมถึงทรัพยากรของเกม การออกแบบฉาก และสคริปต์ต่าง ๆ อีกด้วย โดยแพลตฟอร์มอย่าง Unity และ Unreal Engine รองรับ Git ในตัว
การนำไปประยุกต์ใช้:
- Asset Management: ติดตามไฟล์ Textures, Models และ Animations
- Level Design: ควบคุม Version ของไฟล์ Scene และ Blueprints
- Scripting: จัดการ Code ที่ควบคุมกลไกของเกมและ AI
ประโยชน์:
- ทำงานร่วมกันระหว่าง Developers แล Artists ได้ง่ายขึ้น
- แก้ไข Conflicts ในไฟล์ Asset ด้วย Git Merge Tools
- ย้อนกลับไปใช้ Versions ก่อนหน้าเพื่อแก้ไข Bugs ได้สะดวก
10. จัดการ Machine Learning Models
ในงานด้าน AI และ Machine Learning การติดตาม Models ที่ผ่านการ Train และการตั้งค่าต่าง ๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถใช้ Git ร่วมกับ Tool อย่าง MLflow เพื่อจัดการ Version ได้อย่างครอบคลุม
การนำไปประยุกต์ใช้:
- Model Versioning: ติดตาม Model ที่ผ่านการ Train ในแต่ละ Versions
- Pipeline Management: บริหารจัดการ Scripts สำหรับการ Train และการเตรียมข้อมูล
- Collaboration: แชร์ Models กับทีมงานหรือ Community
ประโยชน์:
- รักษาความสามารถในการทำซ้ำของการ Train Model
- ผสานการจัดการ Version ของ Model เข้ากับ GitOps Workflow
- ทำงานร่วมกันบน Models โดยไม่ต้องสร้างไฟล์ซ้ำ
เคล็ดลับการใช้ Git กับ Non-Code Projects
- จัดระเบียบ Repositories: ใช้ Commit Messages ที่อธิบายได้ชัดเจน และมี Folder Structures ที่เหมาะสม
- ใช้ Branches: แยก Experiments หรือ Drafts ออกจากกันโดยใช้ Git Branches
- ใช้ Git LFS: สำหรับไฟล์ Binary ขนาดใหญ่ เช่น รูปภาพ Datasets หรือไฟล์ Audio
- ตั้งค่า Git Hooks: ใช้ Git Hooks เพื่อเรียกใช้คำสั่งอัตโนมัติ เช่น การ Deploy หรือการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ
สรุป
และนี่ก็คือ 10 ตัวอย่าง การใช้ประโยชน์จาก Git กับงานที่คุณคาดไม่ถึง เพราะ Git ไม่ได้เป็นแค่เพียง Tool สำหรับควบคุม Version ของ Source Code เท่านั้น แต่ยังมีความยืดหยุ่น ทรงพลัง และสามารถขยายการใช้งานไปสู่หลากหลายวงการ เช่น งานวิจัย การออกแบบ การผลิตดนตรี และการจัดการ Personal Knowledge หากลองคิดนอกกรอบ คุณสามารถใช้ Git เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความเป็นระเบียบให้กับ Workflows ของคุณ ดังนั้น ในครั้งต่อไปที่คุณกำลังทำ Non-Code Projects ลองถามตัวเองว่า "Git จะสามารถช่วยให้งานเหล่านั้น ง่ายขึ้นได้ไหม?" ซึ่งคำตอบก็มักจะเป็น "ได้อย่างแน่นอน"
ที่มา: https://blog.stackademic.com/
รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert
อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ
บทความล่าสุด