How to write resume for IT candidates

07-Mar-17

HR insights

 

จากประสบการณ์ในการทำงานด้าน Recruitment ในบริษัทไอทีสังเกตได้ว่า คนสายงานไอทีส่วนใหญ่ไม่ชอบเขียน Resume โดยอาจมองว่าเป็นเรื่องไม่จำเป็น เพราะสุดท้ายแล้ว Team Lead หรือ Project Manager ก็ Focus ที่เนื้องานและประสบการณ์ในการทำงานมากกว่าจดหมายสมัครงานเพียงแค่ 1 ฉบับ ซึ่งจริงๆ แล้ว ความคิดนี้ก็ไม่ผิดค่ะ แต่.....

 

ด่านแรกของการรับสมัครงานที่ชาวไอทีต้องเจอคือ HR หรือ Recruiter ยิ่งในบริษัทหรือในตำแหน่งงานที่มีผู้สมัครจำนวนมาก “เรซูเม่” ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการแนะนำตัวของผู้สมัคร ที่จะบอกได้ว่าใครที่มีประสบการณ์และเหมาะสมกับงานมากที่สุด เพื่อติดต่อนัดหมายเข้ามาสัมภาษณ์งานต่อไป หรือส่ง Resume ของผู้สมัครเหล่านั้นไปให้หัวหน้างานโดยตรงแล้วคัดเลือกอีกครั้งหนึ่ง

 

แล้วเราจะแนะนำตัวเองยังไงให้โดดเด่น สื่อสารยังไงให้โดนใจทั้ง HR และว่าที่หัวหน้างานในอนาคต?

 

ขอสรุปเทคนิค 3 ข้อ จากประสบการณ์การ Recruit ผู้สมัครสายงานไอที ดังนี้

 

1.เขียนในสิ่งที่บริษัทอยากรู้

อะไรคือสิ่งที่บริษัทอยากรู้? เราจะทราบได้อย่างไรว่าบริษัทอยากรู้อะไร? ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า บริษัทที่เราไปสมัครงานนั้นเป็นบริษัทประเภทไหน เป็นบริษัทที่เป็น Headhunter หรือ Software House หรือเปล่า หรือเป็นบริษัทที่รับสมัครงานโดยตรง?

 

กรณีที่เป็นบริษัทที่สมัครงานโดยตรง ข้อมูลที่บริษัทอยากทราบคือ ผู้สมัครคนนั้นมีอะไรที่ตรงกับตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครบ้าง ซึ่งใครที่นำเสนอตัวเองในเรซูเม่ได้ตรงกว่าคนนั้นคือ คนจะถูกเลือกก่อน ดังนั้น Checklist สำคัญในการเขียนเรซูเม่ของคุณคือ Job Description ในประกาศรับสมัครงานนั่นเอง คุณไม่จำเป็นเขียนประสบการณ์ทุกอย่างหรืองานทุกชิ้นที่เคยทำ เลือกเขียนเฉพาะสิ่งที่ตรงกับลักษณะงานที่บริษัทกำลังมองหา และอย่าลืมระบุ Dev Skills ที่คุณมีที่ตรงกับใน Job Description นั้นด้วย ยิ่งเขียนรายละเอียดเหล่านี้ชัดเจนเท่าไหร่ ก็จะทำให้มีโอกาสได้งานมากขึ้นด้วย

 

กรณีสมัครงานผ่าน Headhunter หรือ Software House บริษัทเหล่านี้จะต้องการรายละเอียดการทำงานที่มากกว่าบริษัททั่วๆ ไป คุณจำเป็นต้องระบุรายละเอียดของงานที่ทำ เช่น ชื่อโปรเจ็ค, ชื่อลูกค้า, Technology & Tools ที่ใช้ในการ Implement เป็นต้น เพื่อที่จะได้รู้ว่าคุณมีความถนัดด้านไหน มีทักษะอะไร เคยทำงานอยู่ในกลุ่มธุกิจได้ และสามารถหาตำแหน่งงานในบริษัทที่เหมาะสมให้กับคุณ

 

สิ่งสำคัญของการเขียน Resume อีกอย่างหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะสมัครงานกับบริษัทโดยตรงหรือผ่าน Headhunter ก็คือ การเขียนข้อมูลส่วนตัวให้ชัดเจน เช่น ชื่อ-นามสกุล, ช่องทางและรายละเอียดการติดต่อ, เงินเดือนที่คาดหวัง และวันที่สามารถเริ่มงานใหม่ได้ เป็นต้น

 

2.เขียนในสิ่งที่เป็นตัวตนของเรา

อย่างที่บอกไปตอนต้นว่า เรซูเม่ก็คือ เครื่องมือในการแนะนำตัวคุณให้ว่าที่นายจ้างรู้จัก ดังนั้น คุณไม่จำเป็นต้องเขียนอะไรที่ดูเว่อร์วังเกินความเป็นจริง ไม่ว่าคุณจะโฆษณาถึงคุณสมบัติของคุณอย่างไรในเรซูเม่ สิ่งเหล่านั้นต้องอยู่บนพื้นฐานของความจริง เพราะสุดท้ายแล้ว HR หรือผู้ที่จะสัมภาษณ์เขาจะสัมผัสได้ว่าสิ่งที่เราเขียนใน Resume มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงไร หากเราเขียนแบบเกินจริงมากๆผู้สัมภาษณ์อาจจะมองว่าเราเป็นคนโอ้อวดเกินจริงได้ หรือหากมีการทดสอบ IQ / EQ Resume ที่เราเขียนโอ้อวดตัวเองเกินจริงจะเป็นดาบสองคมได้ อันนี้ต้องระวังมากๆนะคะ

 

3.เขียนในสิ่งที่จะทำให้ได้แต้มต่อ

ในกรณีที่เรซูเม่ของคุณกับผู้สมัครอีกคนมีประสบการณ์การทำงานและทักษะที่ใกล้เคียงกันมากๆ แบบสูสีคู่คี่กันมาเลย สิ่งที่จะทำให้คุณมาเหนือคือ การแสดงให้เห็นว่าคุณมีความทุ่มเทในการทำงานและสามารถเข้ากับองค์กรได้ เช่น การทำงานล่วงเวลาได้, สามารถเดินทางไปตามไซต์งานหรือทำงานนอกสถานที่ได้, พร้อม stand by on call (สำหรับบางสายงาน) เป็นต้น สิ่งเหล่านี้อาจจะไม่ได้ระบุไว้ใน Job Description การเตรียมตัวหรือการหาข้อมูลบริษัทที่เราจะไปสมัครจึงมีความจำเป็นมากๆ สำหรับคนที่ตั้งใจจะเปลี่ยนงาน

 

จากเทคนิคทั้ง 3 ข้อที่ได้กล่าวมาข้างต้นจะเห็นว่าการเขียน Resume ไม่ใช่เรื่องยาก และการเขียน Resume ที่ดีก็ทำให้เรามีชัยไปกว่าครึ่ง ในการออกไปตามล่าหาประสบการณ์ใหม่ อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนงานบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องที่ดี ในมุมมองของ HR มันอาจมีข้อสงสัยว่า คนๆ นี้ไม่ค่อยมีความอดทนในการทำงานหรือเปล่า? ถ้ารับเขามาแล้วจะอยู่นานไหม? ระยะเวลาที่เหมาะสมในการทำงานอยู่ในบริษัทใดบริษัทหนึ่งก่อนเปลี่ยนงานคือ ระหว่าง 3 - 5 ปี เพราะเป็นระยะเวลาจะสามารถเรียนรู้งานต่างๆ ภายในบริษัทนั้นๆ ได้และสามารถนำความรู้ตลอดระยะที่สั่งสมมา ไปเริ่มงานกับบริษัทใหม่ได้อย่างเต็มศัยกภาพ นอกจากนี้ อายุก็มีผลต่อการเริ่มงานใหม่ คนที่อายุ 45 ปีขึ้นไปจะเริ่มหางานยากขึ้น ยิ่งถ้าคุณยังอยู่ในระดับปฏิบัติการ การสมัครงานที่ใหม่คือ การที่คุณอาจจะต้องแข่งขันกันผู้สมัครที่เด็กกว่า ค่าแรงต่ำกว่า ดังนั้น คุณอาจต้องเตรียมตัวมากกว่าคนอื่นๆ สิ่งสำคัญคือ คุณต้องหาเหตุผลให้กับนายจ้างให้ได้ว่า ถ้าจ้างคุณแล้วจะเป็นผลดีต่อบริษัทอย่างไรบ้าง

ข้อมูลจาก คุณวิภาวี เลื่องลือวงศ์

ตำแหน่ง IT Recruitment Specialist บริษัท จีดีแอล กรุ๊ป จำกัด

 

 

 

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

 

เพิ่มเพื่อน

 

 

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง