บทความ IT เจ๋งๆ

ปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความะสดวกให้มนุษย์มากขึ้นทุกวัน แต่ในบทความนี้เราจะโฟกัสไปที่เรื่อง Mobile App ที่เราใช้กันอยู่แทบทุกวัน คำถามโดยทั่วไปตอนที่คุณจะสร้าง App คือ อะไรคือสิ่งสำคัญในการสร้าง App ให้ใช้งานได้รวดเร็วและเป็นมิตรกับผู้ใช้ (User friendly) คำตอบหลักๆ ก็คงเป็นเรื่อง การเขียนโปรแกรม นั่นเอง แต่นั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่ง เรามาดูกันว่า 5 เรื่องสำคัญที่ควรคิด ก่อนจะสร้าง Mobile App มีอะไรบ้าง ซึ่งผู้เขียนบทความ (คุณ Marijo Šunjić) ได้ให้แนวทางไว้อย่างน่าสนใจ

1. Idea

นี่อาจเป็นฝันร้ายของ Developer สำหรับ Marijo เอง เริ่มต้นเขียนโปรแกรมประมาณ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งเขามีไอเดียมากมายเกี่ยวกับ App แต่หลังจากที่ได้เรียนรู้วิธีเขียน Code แล้ว ไอเดียต่างๆ กลับหายไป หากคุณทำงานอยู่ในแผนก Research & Development พวกไอเดียส่วนใหญ่มักมาจากลูกค้า หากคุณเป็นผู้ก่อตั้ง Startup แน่นอนว่าคุณเป็นคนออกไอเดีย แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ควรรู้ความต้องการและควรเขียนออกมาได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้การเพิ่ม Feature ที่เหมาะสมลงไปใน App ก็ดูจะเป็นไอเดียที่ดี แต่ควรทำเสียตั้งแต่ในช่วงต้นๆ อย่ามาเพิ่มตอนจะ Launch App ส่วนธุรกิจ Startup ที่จะสร้าง App นั้น Business Model ถือเป็นเรื่องสำคัญและต้องคิดอย่างรอบคอบและระมัดระวังให้มากที่สุด

2. Design

App ที่เป็นที่นิยมที่คุณใช้ๆ กันอยู่ คุณคิดว่ามันเกิดจากความบังเอิญไหม คำตอบคือ ไม่น่าจะใช่ แม้คุณเป็น Developer ที่ไม่มี Designer อยู่ในทีม แต่ลูกค้าจะคาดหวังว่า คุณมีมุมมองทางด้าน User Experience(UX) และสุดท้าย App นั้นก็ไม่ประสบความสำเร็จ สาเหตุหลักส่วนหนึ่งมาจาก Bug หรือการเขียน Code ที่ไม่ดี แต่สาเหตุหลักที่ใหญ่กว่าคือ User ไม่ประทับใจใน App นั้นเสียมากกว่า คุณควรจะคิดในฐานะที่คุณเป็น User ไม่ใช่ Developer แต่ก็โชคดีที่มี UX ที่เป็น Standard ไว้ให้แล้ว อย่าง Material Design by Google ที่คุณควรเข้าไปเรียนรู้ในกรณีที่คุณ Design เองไม่ได้ เพราะการ Design App ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ และเป็นเรื่องหลักที่จะทำให้ User ชอบหรือไม่ชอบ App ของคุณ

3. Coding  ขอแบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้

• Frontend

ณ จุดนี้ Designer ควรมี App อยู่ที่ Zeplin / Adobe Assets อยู่แล้วขึ้นกับประเภทของ App ที่คุณกำลังพัฒนา (Mobile หรือ Website) และควรเลือกใช้เทคโนโลยีที่คุณถนัดใช้งาน หากคุณอยากพัฒนา Mobile App การใช้ React Native เป็น codebase ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีเพราะมีการใช้งานมากขึ้นตั้งแต่ปี 2013 และมันก็ถูกใช้ใน App ชื่อดังอย่าง Instagram และ (ส่วนหนึ่งของ)Facebook ส่วน Ionic ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ถ้าคุณใช้ Swift (iOS) หรือ Java (Android) ได้อย่างคล่องแคล่ว Kotlin ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว สรุปแล้วถ้าคุณจะพัฒนา Web App ก็สามารถใช้ได้ทั้ง VueJS / React / Angular / google ‘web frameworks’  ตามแต่คุณจะถนัด

• Backend

ในฐานะของ Backend Developer ส่วนนี้คุณควรระวังให้มาก การรักษาความปลอดภัย API และ Server เป็นสิ่งแรกที่คุณควรพิจารณา คุณคงไม่ต้องการให้ Database ถูกละเมิด สิ่งต่างๆ อย่างการ Upload file และ SQL มีแนวโน้มที่จะเป็นสาเหตุให้ Server มีปัญหาได้ หากคุณพัฒนาระบบ Backend คุณก็มีตัวเลือกเช่นกัน ไม่ใช่แค่ Framework แต่เป็นภาษา Programming ที่ใช้ด้วย ที่นิยมใช้กันมากเช่น  PHP, NodeJS และ Ruby แต่ Java ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยรวมแล้ว ระบบความปลอดภัย เป็นเรื่องสำคัญอย่างแรกที่ต้องใส่ใจ คุณสามารถค้นหาบทความเกี่ยวกับ Backend Security ได้ใน Google มันมีให้คุณอ่านมากมายเลย

4. QA testing

เมื่อสร้าง App เสร็จแล้ว คุณอาจต้องการจ้าง QA Tester (อาจจ้างคนที่เป็น Freelance ก็ได้)เพื่อทดสอบ App ของคุณ เพื่อดูว่ามี Bug หลงเหลืออยู่บ้างไหม การเขียน Test Code ในขณะที่คุณพัฒนา App เป็นแนวทางที่ดี แต่การทดสอบโดยมนุษย์จะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

5. Publishing

เอาล่ะ ตอนนี้ถือว่า App ของคุณเสร็จอย่างแท้จริงแล้ว ต่อไปถึงขั้นการ เผยแพร่ App ของคุณให้ผู้คนได้ใช้งาน คุณอาจต้องใช้การตลาด เพื่อทำให้ App ของคุณเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น

บทสรุป

บทความนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ต่อ Developer ทั้งหลาย เพื่อให้เห็น "ข้อผิดพลาดต่างๆ" ที่อาจเกิดขึ้น และจะได้หาทางหลีกเลี่ยงมัน นอกจากนี้ มันจะเป็นประโยชน์ต่อสิ่งใหม่ๆ ที่คุณจะสร้างขึ้นในอนาคตอีกด้วย

ที่มา : https://medium.com/

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ
 

บทความที่เกี่ยวข้อง

• Roadmap เพื่อการพัฒนา Website อย่างมืออาชีพ
• ทำไม Programmers มือใหม่ ถึงควรใช้ “Git”
• สร้าง Application ครั้งแรก แต่กลับ “ล้มเหลว”