30 Tools ช่วยทำงานที่ Developer ควรรู้จักไว้

22-ม.ค.-25

คัมภีร์เทพ IT

ในแวดวง Programming นั้น มี Tools มากมาย ที่ช่วยลดความซับซ้อนและเพิ่มความสนุกในการเขียน Code ซึ่งหลาย Tools ก็เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว แต่ก็มีบาง Tools ที่อาจยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักและมันก็มีประโยชน์มาก เรามาดูกันว่า 30 Tools ช่วยทำงานที่ Developer ควรรู้จักไว้ มีอะไรบ้าง

1. Visual Studio Code (VS Code)

VS Code คือ Code Editor ที่พัฒนาโดย Microsoft และใช้งานได้ฟรี

เหตุใดจึงควรใช้:

VS Code มีการทำงานที่รวดเร็วและรองรับการเขียน Code ในหลากหลายภาษา Programming อีกทั้งยังสามารถเพิ่ม Features ผ่าน Extensions ต่าง ๆ ได้

การใช้งาน:

คุณสามารถเปิดไฟล์ แล้วเริ่มเขียน Code ได้ทันที

2. GitHub

GitHub เป็น Platform สำหรับจัดเก็บและแชร์ Code กับคนอื่นได้

เหตุใดจึงควรใช้:

มันช่วยให้คุณสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นและติดตามการเปลี่ยนแปลงของ Projects ได้

การใช้งาน:

คุณสามารถสร้าง Repository เพื่อจัดเก็บ Code และแชร์กับคนอื่น ๆ ในทีมของคุณได้

3. Postman

Postman เป็น Tool สำหรับทดสอบ API (Application Programming Interfaces)

เหตุใดจึงควรใช้:

Postman จะช่วยให้คุณส่ง Requests และดู Responses ได้โดยไม่ต้องเขียน Code เพิ่มเติม

การใช้งาน:

ลองทดสอบ GET Requests ง่าย ๆ ด้วยการป้อน URL แล้วคลิก "Send"

4. Figma

Figma เป็น Design Tool ที่ใช้งานบน Web Browser

เหตุใดจึงควรใช้:

Figma จะช่วยให้คุณออกแบบ User Interfaces และทำงานร่วมกับทีมได้แบบ Real-Time

การใช้งาน:

คุณสามารถสร้าง Button Design แล้วแชร์กับทีมของคุณได้ทันที

5.Docker

Docker เป็น Tool สำหรับสร้างและจัดการกับ Containers

เหตุใดจึงควรใช้:

Containers จะช่วยให้การ Run Code บนเครื่องต่าง ๆ เป็นไปในรูปแบบเดียวกัน

การใช้งาน:

คุณสามารถรวบรวมและเตรียมความพร้อมของ Application พร้อม Dependencies ต่าง ๆ ให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถนำไปใช้ได้ทุกที่โดยไม่ยุ่งยาก

6. Slack

Slack เป็น App สำหรับส่งข้อความภายในทีม

เหตุใดจึงควรใช้:

มันช่วยให้คุณสื่อสารกับทีมได้อย่างง่ายดาย รวมทั้งแชร์ไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว

การใช้งาน:

สร้าง Channels สำหรับ Projects ต่าง ๆ เพื่อความเป็นระเบียบ

7. Trello

Trello เป็น Tool สำหรับจัดการ Projects

เหตุใดจึงควรใช้:

คุณสามารถสร้าง Boards เพื่อจัดการ Tasks และติดตามความคืบหน้าได้

 

สร้าง Board ที่มีคอลัมน์ เช่น “To Do”, “In Progress” และ “Done”

8. GitLab

GitLab ก็คล้ายกับ GitHub แต่มี Features สำหรับ CI/CD (Continuous Integration/Continuous Deployment)

เหตุใดจึงควรใช้:

มันจะช่วยให้คุณจัดการ Code และทำให้ Deployment Process ให้เป็นอัตโนมัติได้

การใช้งาน:

ตั้งค่า Pipelines เพื่อ Test และ Deploy Code โดยอัตโนมัติ

9. Bitbucket

Bitbucket ก็เป็นอีกหนึ่ง Platform สำหรับจัดเก็บและจัดการ Code

เหตุใดจึงควรใช้:

มันสามารถใช้งานรวมกับ Tools อื่น อย่าง Jira เพื่อจัดการกับ Projects ได้เป็นอย่างดี

การใช้งาน:

คุณสามารถสร้าง Repositories และกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงให้ทีมของคุณ

10. CodePen

CodePen คือ Online Code Editor สำหรับ HTML, CSS และ JavaScript

เหตุใดจึงควรใช้:

มันเหมาะสำหรับการสร้างและแชร์ Projects ขนาดเล็กๆ ได้อย่างรวดเร็ว

การใช้งาน:

สร้าง Webpage ง่าย ๆ และดูผลลัพธ์ได้แบบ Real-Time

11. Repl.it

Repl.it เป็น Environment สำหรับการเขียน Code แบบ Online

เหตุใดจึงควรใช้:

มันช่วยให้คุณเขียนและ Run Code ได้หลายภาษา Programming โดยไม่ต้องติดตั้ง Software ใด ๆ

การใช้งาน:

เพียงเลือกภาษา Programming ที่ต้องการ พิมพ์ Code แล้วกด "Run"

12. Notion

Notion เป็น Tool สำหรับจดบันทึกและจัดการข้อมูล

เหตุใดจึงควรใช้:

Notion จะช่วยให้คุณจดบันทึก, จัดการ Tasks และทำงานร่วมกับทีมของคุณได้

การใช้งาน:

สร้าง Page สำหรับ Project เพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ในที่เดียว

13. Netlify

Netlify เป็น Platform สำหรับ Deploy Web Applications

เหตุใดจึงควรใช้:

มันทั้งใช้งานง่าย และช่วยให้คุณ Deploy ได้อย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่คลิก

การใช้งาน:

เชื่อมต่อ GitHub Repository และ Deploy Website ของคุณให้โดยอัตโนมัติ

14. Vercel

Vercel เป็น Platform สำหรับ Deploy Frontend Applications

เหตุใดจึงควรใช้:

มันทั้งเร็วและถูกออกแบบมาสำหรับ Web Frameworks สมัยใหม่ เช่น React

การใช้งาน:

Deploy React App ของคุณด้วยคำสั่งเพียงคำสั่งเดียว

15. Snyk

Snyk เป็น Security Tool ที่ช่วยตรวจจับช่องโหว่ใน Code และ Dependencies

เหตุใดจึงควรใช้:

มันช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่า Code ของคุณมีความปลอดภัย

การใช้งาน:

ใช้งาน Snyk กับ CI/CD Pipeline เพื่อตรวจจับปัญหาความปลอดภัยก่อนทำการ Deploy

16. Jupyter Notebook

Jupyter Notebook เป็น Environment สำหรับการเขียน Code แบบ Interactive

เหตุใดจึงควรใช้:

มันเหมาะสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลและแสดงออกมาในรูปแบบภาพด้วย Python

การใช้งาน:

คุณสามารถเขียน Code แล้ว Run เพื่อดูผลลัพธ์ได้ทันที

17. ESLint

ESLint เป็นเครื่องมือสำหรับตรวจสอบ JavaScript Code

เหตุใดจึงควรใช้:

มันช่วยให้คุณค้นหาและแก้ไขปัญหาใน Code ก่อนที่จะ Run

การใช้งาน:

Run ESLint ใน Project ของคุณเพื่อดูว่า Code ของคุณมีปัญหาหรือไม่

18. Prettier

Prettier เป็น Tool สำหรับจัดรูปแบบของ Code

เหตุใดจึงควรใช้:

มันจะช่วยจัด Code ของคุณให้อ่านง่ายขึ้นโดยอัตโนมัติ

การใช้งาน:

Run Prettier เพื่อให้มันช่วยจัดการ Code ที่ไม่เป็นระเบียบ ให้อ่านง่ายยิ่งขึ้น

19. PostCSS

PostCSS เป็น Tool สำหรับแปลง CSS ด้วย JavaScript

เหตุใดจึงควรใช้:

PostCSS จะช่วยให้คุณสามารถใช้ CSS Features สมัยใหม่ได้แม้ใน JavaScript features รุ่นเก่า

การใช้งาน:

ใช้ PostCSS เพื่อเพิ่ม Vendor Prefixes ให้โดยอัตโนมัติ

20. Webpack

Webpack เป็น Tool ที่ใช้ในการรวม Module (Module Bundler) สำหรับ JavaScript Applications

เหตุใดจึงควรใช้:

มันจะช่วยรวม Code และทรัพยากรต่าง ๆ ให้พร้อมสำหรับ Production

การใช้งาน:

ใช้ Webpack เพื่อรวมไฟล์ JavaScript ทั้งหมดให้เป็นไฟล์เดียว

21. Babel

Babel เป็น JavaScript Compiler

เหตุใดจึงควรใช้:

มันจะช่วยให้คุณสามารถใช้ Features ล่าสุดของ JavaScript อีกทั้งยังรองรับ Browsers รุ่นเก่า

การใช้งาน:

เขียน Code ด้วย Syntax สมัยใหม่ แล้ว Babel จะช่วยแปลง Code ให้เหมาะสม

22. Cypress

Cypress เป็น Testing Framework แบบ End-to-End

เหตุใดจึงควรใช้:

มันติดตั้งได้ง่าย และช่วยให้คุณเขียนเ Test สำหรับ Web Applications ได้อย่างสะดวก

การใช้งาน:

เขียน Test ที่เข้าไปยัง Page และตรวจสอบว่า สามารถเห็น Header หรือไม่

23. Swagger

Swagger เป็น Tool สำหรับออกแบบ APIs

เหตุใดจึงควรใช้:

มันจะช่วยให้คุณสร้าง Documentation สำหรับ API ได้อย่างง่ายดาย

การใช้งาน:

ออกแบบจุดเชื่อมต่อ API และสร้างเอกสารอัตโนมัติ

24. CodeSandbox

CodeSandbox เป็น Online Code Editor

เหตุใดจึงควรใช้:

คุณสามารถสร้างและแชร์ Web Applications ผ่าน Browser

การใช้งาน:

สร้าง React App และแชร์ Linkให้เพื่อนได้ทันที

25. Glitch

Glitch เป็น Platform สำหรับสร้างและแก้ไข Web Apps

เหตุใดจึงควรใช้:

มันจะช่วยให้คุณเขียน Code และดูการเปลี่ยนแปลงแบบ Real-Time โดยที่ไม่ต้องตั้งค่าใด ๆ

การใช้งาน:

เริ่มต้นจาก Template แล้วปรับแต่งให้เป็น App ตามที่คุณต้องการ

26. Mocha

Mocha เป็น Testing Framework สำหรับ JavaScript

เหตุใดจึงควรใช้:

Mocha จะช่วยให้คุณเขียนและ Run Tests สำหรับ Code ของคุณได้สะดวกยิ่งขึ้น

การใช้งาน:

เขียน Test ง่าย ๆ เช่น:

27. Puppeteer

Puppeteer เป็น Node Library สำหรับควบคุม Headless Feature ของ Chrome

เหตุใดจึงควรใช้:

มันจะช่วยให้คุณทำงานต่าง ๆ เช่น การจับภาพ Screenshots ของ Websites ให้เป็นอัตโนมัติได้

การใช้งาน:

ใช้ Puppeteer เพื่อเปิด Webpage และจับภาพหน้าจอที่คุณต้องการ

28. SQL Fiddle

SQL Fiddle เป็น Web Tool สำหรับทดสอบ SQL Queries

เหตุใดจึงควรใช้:

มันจะช่วยให้คุณเขียนและทดสอบ SQL ได้โดยไม่ต้องติดตั้ง Database

การใช้งาน:

สร้าง Schema และ Run Queries แล้วดูผลลัพธ์ได้ในทันที

29. GitKraken

GitKraken เป็น Git GUI เพื่อให้ Users ใช้งานและจัดการ Git ได้สะดวกยิ่งขึ้น

เหตุใดจึงควรใช้:

GitKraken จะช่วยให้คุณจัดการ Git Repositories ได้ง่ายขึ้นด้วย Interface ที่ใช้งานง่าย

การใช้งาน:

ใช้ GitKraken เพื่อดู Branches และ Commits ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย

30. JIRA

JIRA เป็น Tool ที่ใช้สำหรับจัดการ Project

เหตุใดจึงควรใช้:

มันจะช่วย Track พวก Tasks, Bugs และความคืบหน้าของ Project ไว้ในที่เดียว

การใช้งาน:

สร้าง Issues สำหรับแต่ละ Tasks และมอบหมายให้แก่สมาชิกในทีม

สรุป

ทั้งหมดนี้คือ 30 Tools ช่วยทำงานที่ Developer ควรรู้จักไว้ ซึ่งจะช่วยให้เขียน Code ได้สะดวกรวดเร็ว สนุก และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเริ่ม Project, จัดการ Code หรือทดสอบระบบก็ตาม

ที่มา: https://javascript.plainenglish.io/

 

 

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

เพิ่มเพื่อน

 

บทความล่าสุด