7 คำสั่ง Linux ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณ
10-ม.ค.-25
คัมภีร์เทพ IT
ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือคนมีประสบการณ์สูง ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพ Workflow ของคุณ คำสั่ง Linux ในบทความนี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณทำงานได้มากขึ้นในเวลาสั้น ๆ เรามารู้จักกับ 7 คำสั่ง Linux ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณ
1. เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการใช้คำสั่ง alias
คำสั่ง alias เเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการย่อคำสั่งที่ใช้งานบ่อย ๆ มันช่วยให้คุณพิมพ์น้อยลงแต่ทำงานได้เร็วขึ้น ด้วยคำสั่งนี้ คุณสามารถสร้างคำย่อสำหรับคำสั่งยาว ๆ หรือคำสั่งที่มีความซับซ้อนได้ มันจะช่วยลดทั้งเวลาที่ใช้พิมพ์และโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาดได้อีกด้วย
- การสร้าง alias: เพื่อสร้าง alias ง่าย ๆ ให้พิมพ์คำสั่งนี้:
จากตัวอย่างนี้ จะสร้าง alias ll สำหรับคำสั่ง ls -la ที่ใช้บ่อย ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการเรียกดูไฟล์พร้อมข้อมูลรายละเอียด
- ปรับแต่งให้เหมาะกับ Workflow ของคุณ: คุณสามารถสร้าง alias ที่ซับซ้อนขึ้นได้ เช่น การอัปเดต System ของคุณ:
- ทำให้ alias ใช้งานได้ถาวร: เพื่อให้ alias ที่สร้างไว้ยังคงอยู่ในทุกครั้งที่เปิดใช้งาน Terminal ให้เพิ่มคำสั่งเหล่านี้ลงในไฟล์ Configuration ของ Shell เช่น หากคุณกำลังใช้ Bash ให้เพิ่ม alias ลงใน ~/.bashrc:
หลังจากเพิ่ม alias แล้ว ให้ Run คำสั่ง:
ด้วยคำสั่ง alias คุณจะสามารถลดความซับซ้อนของ Workflow โวยการปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการได้ ทำให้การทำงานที่ซ้ำซาก มีความรวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น
2. ทำให้งานเป็น Automate ด้วย cron jobs
Automation ถือเป็นส่วนสำคัญของการเพิ่มประสิทธิภาพ และ cron jobs จะช่วยให้คุณสามารถตั้ง Schedule ให้คำสั่งหรือ Script ทำงานโดยอัตโนมัติได้ตามกำหนดเวลา cron จะเป็นตัวจัดการ job ตามเวลา ที่ช่วยให้ระบบ Run คำสั่งหรือ Script ในช่วงเวลาที่กำหนด
- ตั้งค่า cron job: คุณสามารถตั้งเวลาให้ Run คำสั่งได้ โดยแก้ไขไฟล์ crontab:
ภายในไฟล์ ให้กำหนดเวลาและ Tasks ที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น การ Run Backup Script ทุกวัน เวลา 02:00 น.:
- ดู Tasks ที่ตั้งกำหนดเวลาไว้: เพื่อดูรายการ Jobs ที่ตั้งกำหนดเวลาไว้ ให้ใช้คำสั่ง:
- ลบหรือแก้ไข Jobs: หากต้องการลบหรือแก้ไข cron job ให้แก้ไขไฟล์ crontab ด้วยคำสั่ง crontab -e
cron jobs ถือเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการทำงานที่ซ้ำซาก เช่น Backups, System Maintenance เป็นต้น ซึ่งมันจะช่วยให้คุณมีเวลามากขึ้นสำหรับงานอื่น ๆ ที่สำคัญกว่า
3. การค้นหา Files อย่างมืออาชีพด้วย grep
คำสั่ง grep เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการค้นหาข้อความภายในไฟล์ ไม่ว่าคุณจะค้นหา Error Messages ใน log หรือหา Strings ที่ต้องการใน Project Directory ซึ่ง grep จะช่วยให้ค้นหาได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
- การใช้งานพื้นฐาน: เพื่อค้นหาข้อความภายในไฟล์ ให้ใช้คำสั่ง:
- การค้นหาแบบ Recursive: ค้นหาข้อความในหลาย ๆ ไฟล์หรือ Directories:
- Options ขั้นสูง: ใช้ flag เช่น -i สำหรับการค้นหาแบบไม่สนใจว่าเป็นตัวพิมพ์ใหญ่หรือเล็ก หรือ -v เพื่อแสดงบรรทัดที่ไม่ตรงกับเงื่อนไข ตัวอย่าง:
ด้วยคำสั่ง grep คุณสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว แม้ข้อมูลจะมีปริมาณมาก
4. จัดการ Files ให้ง่ายขึ้นด้วย find
คำสั่ง find เป็นเครื่องมือสำคัญในการค้นหาไฟล์และ Directories ตามเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น ชื่อไฟล์, ขนาด และเวลาที่แก้ไข นอกจากนี้ยังสามารถใช้ค้นหาและดำเนินการกับไฟล์ได้ในคำสั่งเดียว
- การใช้งานพื้นฐาน: เพื่อค้นหาไฟล์ .txt ทั้งหมดใน Directory:
- ค้นหาไฟล์ขนาดใหญ่: ค้นหาไฟล์ที่มีขนาดใหญ่:
- Run คำสั่งบนไฟล์ที่ค้นพบ: ใช้ -exec เพื่อรันคำสั่งบนไฟล์ที่พบ ตัวอย่าง ลบไฟล์ .tmp ทั้งหมดใน Directory:
คำสั่ง find จะช่วยให้การจัดการไฟล์สะดวกยิ่งขึ้น โดยเฉพาะใน Directories ที่มีไฟล์จำนวนมาก
5. Synchronize File อย่างมีประสิทธิภาพด้วย rsync
คำสั่ง rsync เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการ Sync ไฟล์ระหว่าง Directories, Drives หรือ Remote Systems มันเหมาะสำหรับการ Backups, การทำ Mirror ข้อมูล หรือการ Copy ไฟล์ขนาดใหญ่ผ่าน Networks
- การใช้งานพื้นฐาน: เพื่อ Synchronize 2 Directories:
คำอธิบาย Flag:
- -a (Archive Mode) จะรักษา Permissions, Ownership และ Timestamps ไว้
- -v (Verbose) แสดงรายละเอียดการทำงานอย่างละเอียด
- -z บีบอัดไฟล์ขณะถ่ายโอนเพื่อลดการใช้ Bandwidth
ด้วย rsync คุณสามารถ Synchronize ข้อมูลให้สอดคล้องกันระหว่าง Systems ต่าง ๆ หรือสร้าง Backups ที่เชื่อถือได้ โดยลดความยุ่งยากในการทำงาน
6. การ Navigate ที่รวดเร็วขึ้นด้วย cd Shortcuts และ Directory Bookmarks
การ Navigate ระหว่าง Directories อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถช่วยให้ประหยัดเวลาได้อย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อต้องทำงานใน Folder Structures ที่มีความซับซ้อน คำสั่ง cd จะสามารถปรับปรุงการใช้งานได้ด้วยเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์เหล่านี้
- การสลับไป-มา ระหว่าง Directories: หากต้องการกลับไปยัง Directory ก่อนหน้าอย่างรวดเร็ว ให้ใช้คำสั่งนี้:
- การใช้ Directory Bookmarks ด้วยคำสั่ง pushd และ popd: คำสั่งเหล่านี้ จะช่วยให้คุณสามารถทำการ Bookmark Directory ไว้ใน Stack แล้วค่อยกลับไปยังตำแหน่งนั้นในภายหลัง ตัวอย่างเช่น:
คำสั่งนี้ จะ Save Directory ปัจจุบันลงใน Stack จากนั้น หากต้องการกลับไปยังตำแหน่งที่ Save ไว้ ให้ใช้คำสั่ง:
การใช้ Shortcuts และ Bookmarks เหล่านี้ สามารถช่วยลดเวลาในการย้ายไปมาระหว่าง File System ได้อย่างมาก
7. การตรวจสอบ System Resources ด้วย htop
การติดตามการใช้งาน Resource ของ System ถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องทำงานกับงานที่ใช้ Resource มาก ๆ htop เป็นเครื่องมือที่ให้มุมมองแบบ Graphic ที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรต่อ User มากกว่าคำสั่ง top มาตรฐาน
- การติดตั้ง htop: หากยังไม่มีการติดตั้ง htop ใน System ของคุณ สามารถติดตั้งได้ด้วยคำสั่งนี้:
- การใช้งาน htop: เมื่อการติดตั้งเสร็จแล้ว ให้ Run คำสั่งนี้:
htop จะแสดงข้อมูลแบบ Real-Time เกี่ยวกับการใช้งาน CPU, Memory และ Process ต่าง ๆ คุณยังสามารถ Kill Processes ได้โดยตรงภายใน Interface หรือจัดเรียง Processes ตามประเภท Resource ที่ใช้งานได้
htop จะช่วยให้การตรวจสอบ Performance ของ System เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น รวมทั้งช่วยให้คุณระบุและจัดการ Processes ที่ใช้ Resource มาก ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
สรุป
และนี่ก็เป็น 7 คำสั่ง Linux ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณ ทั้งในเรื่องการประหยัดเวลาและการ Automate ในงานที่คุณทำอยู่ทุกวัน ตั้งแต่การปรับคำสั่งให้สั้นลงด้วย alias ไปจนถึงการติดตามการทำงานของ System ด้วย htop ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณได้อย่างมาก การนำเทคนิคเหล่านี้ ไปใช้ในงานที่คุณทำอยู่ทุกวัน จะช่วยให้คุณสามารถดึงศักยภาพของ Linux ออกมาได้อย่างเต็มที่ แล้ววันทำงานของคุณ จะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ที่มา: https://blog.devops.dev/
รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert
อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ
บทความล่าสุด