6 Free Services ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Developer

27-ก.ค.-22

คัมภีร์เทพ IT

มี Services ต่าง ๆ มากมายที่มุ่งในเรื่องปรับปรุง Workflow ของ Developer ซึ่งส่วนใหญ่ก็เพื่อแก้ปัญหามากมายที่เจออยู่เป็นประจำ หรือไม่ ก็มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุง Open-Source Products รวมทั้งเหตุผลอื่น ๆ และในบทความนี้ เราจะมาดู 6 Free Services ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ Developer มาดูกันว่าจะมี Services ใดบ้าง

1. Cacher

Source.

คุณเคยมี Code เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องตรวจสอบใน Git บ้างไหม แล้วคุณจะใส่ Code Snippets ที่มีประโยชน์เหล่านี้ไว้ที่ไหน

บางครั้งพวกมันก็จะถูกโยนลงใน Slack และถ้าคุณโชคดีพวกมันก็จะถูกตรึงไว้ที่ Channel ที่เหมาะสม แต่บางครั้งพวกพวกมันก็ถูก Save ไว้ใน Document ที่ไหนสักแห่งที่อาจถูกลืมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Labeling snippets in Cacher. Source.

Cacher มุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหานี้ โดย Cacher เป็นวิธีที่ลื่นไหลมากในการ Track Code เล็กๆ น้อยๆ เหล่านั้น คุณสามารถใช้ Label เพื่อกำกับกับ Code Snippets, เพิ่ม Document เข้าไป และทำงานในส่วนต่าง ๆ ร่วมกันกับทีมที่เหลือของคุณ ส่วนที่ดีคือ มันยังสามารถใช้งานได้ใน IDEs สมัยใหม่หลายตัวรวมถึง Standalone Application

2. Beeceptor

       Source.

หากคุณสร้างหรือ Maintain API ต่าง ๆ Beeceptor อาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุด โดย Web App นี้จะช่วยให้คุณสร้าง Intermediate API ที่สามารถสกัดกั้น, แสดง และจำลอง Requests ที่มาจาก Application

Beeceptor จะช่วยป้องกันการโจมตีแบบ Man-in-the-Middle ได้

Creating a mocking rule in Beeceptor.

สมมติว่าคุณมี Application ที่ใช้ประโยชน์จาก API ใหม่หรือที่มีอยู่ก็ตาม คุณสามารถสร้าง Endpoint ใน Beeceptor และส่ง Requests ทั้งหมดเพื่อให้คุณสามารถ Response กลับด้วย Mocks หรือส่งต่อไปยัง API ตัวจริง หาก API ที่คุณกำลังสร้าง ยังอยู่ในระหว่างดำเนินการ แต่ Frontend เสร็จสมบูรณ์แล้ว สิ่งนี่จะช่วยประหยัดเวลาได้

ส่วนประโยชน์อื่น ๆ ของ Beeceptor ก็คือ ความสามารถในการตรวจสอบ Requests ทั้งหมดที่เข้ามาโดยละเอียด คุณสามารถตรวจสอบ Headers, ดู Payload  และดูว่าสิ่งต่าง ๆ ถูกกำหนดไว้สำหรับ Path ใด หากคุณกำลังหาทางก้าวผ่าน Bug ของ API ที่เกิดขึ้น สิ่งนี้อาจทำให้ปัญหาเหล่านั้นกระจ่างยิ่งขึ้น

Free Endpoints ของ Beeceptor สามารถเข้าถึงได้แบบสาธารณะ แต่มี Version ที่ต้องชำระเงินสำหรับ Private Endpoints

3. Ray.so

Generating a pretty code snippet in Ray.so.

คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าผู้คนได้รับ Code Screenshots ที่ดูสวยงามเหล่านี้ได้อย่างไร หากคุณคิดว่าพวกเขาสร้างมันขึ้นมาเอง แสดงว่าคุณกำลังคิดมากเกินไป อันที่จริงพวกเขาอาจกำลังใช้ Ray อยู่

Ray.so Site จะช่วยทำให้คุณมีวิธีง่าย ๆ ในการสร้าง Code Snippets ที่ดูสวยงาม สำหรับใช้ใน Documentation, Articles หรือเพียงเพื่อทำให้การ Share Snippets นั้นมีความสวยงามยิ่งขึ้น

มันง่ายมากที่จะใช้ Ray สิ่งที่คุณต้องทำคือ เข้าไปที่ Website, เลือก Language ที่ต้องการใช้ และ Parameters การจัดรูปแบบที่คุณชื่นชอบ แล้ว Paste ลงไปใน Code ของคุณ นี่อาจทำให้การ Copy-and-Paste Text ของคุณ ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

4. Gitpod

        Source.

GitPod จะช่วยขจัดความเจ็บปวดจากการตั้งค่า Development Environment ใหม่ ด้วยการใช้ GitPod จะทำให้คุณมี Dev Environment ได้ตามที่คุณต้องการ ที่สามารถเขียน, Share และลบ Code ได้อย่างง่ายดายเพียงคลิกที่ปุ่ม คุณสามารถสร้าง Branches ภายใน GitPod และเตรียมสิ่งที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้พร้อมใช้งาน

คุณจะไม่ต้องนั่งรอการ Download Package หรือรอการติดตั้งที่ซับซ้อนอีกต่อไป

GitPod มี Web-based IDE ที่ยอดเยี่ยม และ Browser Development Environment ที่สมบูรณ์ คุณยังสามารถเพิ่ม GitPod ลงใน GitHub ได้โดยตรง และ "Launch" Branches ได้จาก GitHub Interface

เมื่อ Workspace กำลัง Run อยู่ คุณสามารถ Share กับเพื่อนร่วมงานได้โดยตรง เพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานร่วมกันแบบ Real-Time ได้ ซึ่งจะสามารถลดเวลาที่ใช้ในการ Tag Features หรือ Bugs ของทีมกับ Developers รายอื่นได้อย่างมาก 

5. WakaTime

Source.

ในงานของ Developers มักจะมี Dashboards ไม่ว่าจะเป็น Server Statistics, Customer Sales, Database Usage เป็นต้น แต่ทำไมกลับไม่มี Dashboard สำหรับ Personal Programming Statistics ซึ่งเป็น Set ของ Metrics ที่แตกต่างกันไปตาม Development Style ของ Developer แต่ละคน

ลองนึกภาพว่า คุณสามารถวิเคราะห์วิธีทำงานของคุณได้เหมือนกับที่คุณ วิเคราะห์ Program หรือชิ้นส่วนของ Hardware ได้หรือไม่

แต่ WakaTime สามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างแน่นอน WakaTime สามารถเชื่อมต่อกับ Code Editor ที่คุณใช้อยู่ได้โดยตรง และช่วยให้คุณเห็น Set ของ Metrics ที่มีประโยชน์ คุณสามารถดู Metrics ต่าง ๆ ได้ เช่น ระยะเวลาที่คุณใช้กับ File หนึ่ง ๆ, เวลาแบบเฉลี่ยรายวัน และเวลาโดยรวมทั้งหมด ที่ใช้ไปกับการเขียน Code ของคุณ

ในตอนแรก มันอาจดูเหมือนเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องเน้นและใส่ใจกับมัน แต่ WakaTime จะช่วยให้คุณสามารถทำมากกว่าแค่การพิจารณาประสิทธิภาพของคุณเอง มันจะช่วยให้คุณระบุถึงปัญหาคอขวด (Bottlenecks) ที่อาจส่งผลกระทบต่อสมาชิกคนอื่น ๆ ในทีมของคุณได้เช่นกัน

6. NewReleases

Source.

การติดตาม Releases ที่เผยแพร่ออกมาสำหรับ Projects ต่าง ๆ มากมายในภาษา Programming ต่าง ๆ ด้วย 3rd-Party Libraries นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หากคุณเคยได้รับ Security Notifications จาก GitHub เกี่ยวกับ Package ที่เลิกใช้งานแล้ว คุณจะรู้ได้ทันทีว่า เรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่

จะเกิดอะไรขึ้น หากมีวิธีที่ยอดเยี่ยมที่คุณสามารถติดตาม Packages ต่าง ๆ จำนวนมาก และได้รับ Notifications เมื่อมี New Release ออกมา

ตอนนี้ คุณสามารถทำสิ่งนั้นได้ด้วย NewReleases! หากคุณไปที่ newreleases.io คุณจะสามารถเพิ่ม Projects และ Packages ของคุณจาก Sources ต่าง ๆ จากนั้นก็ตั้งค่าเกี่ยวกับ Notifications โดยละเอียด และให้แจ้งเตือนคุณทันทีที่ Package ได้รับการ Update

Tracking some popular projects on NewReleases.

มีการควบคุมที่ค่อนข้างละเอียดสำหรับสิ่งต่าง ๆ เช่น ความถี่ของ Notifications และการยกเว้นในบาง Version เป็นต้น ให้คุณคิดเสียว่า มันเป็น Dashboard สำหรับ Version Numbers เท่านั้น โดยมันจะทำหน้าที่คอยดูสิ่งเหล่านั้นให้คุณอยู่เสมอ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องทำด้วยตัวเองเลย

ที่มา: https://betterprogramming.pub/

 

 

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

เพิ่มเพื่อน

 

บทความล่าสุด