10 เครื่องมือ ที่ Java Developer ควรรู้

26-ก.ย.-18

คัมภีร์เทพ IT

ในโลกของ Java นั้น มีเครื่องมือมากมายให้คุณได้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น IDE อย่าง Eclipse, NetBeans และเครื่องมือสำหรับ Monitoring เช่น JConsole, VisualVM, Eclipse Memory Analyzer เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่า Java Developer หลายคนคงพอรู้จักมาบ้างแล้ว แต่ในบทความนี้จะมาแนะนำเกี่ยวกับ 10 เครื่องมือ ที่ Java Developers ควรรู้ จะมีเครื่องมือใดบ้าง อ่านได้จากบทความนี้เลย

1. JIRA

JIRA เป็นเครื่องมือที่สำคัญมากที่สุดตัวหนึ่งสำหรับเรื่อง Agile Development มันถูกใช้สำหรับ Bug Tracking, Issue Tracking และ Project Management หากคุณกำลังดำเนินตาม Agile development methodology อย่าง Sprint และ Scrum คุณควรต้องรู้จัก JIRA เพราะมันช่วยให้คุณสามารถสร้าง Spring Cycles และติดตามความก้าวหน้าของ Software Development หากคุณอยากเชี่ยวชาญใน Scrum คุณก็ควรต้องเชี่ยวชาญใน JIRA ด้วย การเรียนรู้ JIRA ด้วยตัวอย่างที่ใช้งานจริงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับคุณ เพราะไม่เพียงจะทำให้คุณรู้คุณสมบัติขั้นพื้นฐานและขั้นสูงของ JIRA แต่ยังช่วยให้คุณรู้เกี่ยวกับ Confluence ได้อีกด้วย

2. Git

Git เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญสำหรับ Java Programmer มันเป็น Distributed Version Control Systems ที่ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับทุกสิ่งทุกอย่างทั้ง Project ขนาดเล็กและใหญ่ด้วยความความเร็วและมีประสิทธิภาพ สำหรับคนที่อยากเรียนรู้การใช้งาน Git สามารถหาได้จาก Resource มากมายในอินเตอร์เน็ต

3. Jenkins

Jenkins เป็น Open Source Automation Server ที่ถูกเขียนขึ้นในภาษา Java มันช่วยในการทำ Automate ในส่วนที่เป็น Non-Human ของ Software Development Process เช่น Compiling Projects, Running Unit Tests, Integration Tests, Generating Documentation และ Uploading Artifacts ทั้งบน Local และ Remote Repository นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากสำหรับ Continuous Integration และการ Implement Continuous Delivery ใน Project ของคุณอีกด้วย

4. Selenium

Selenium เป็นหนึ่งใน Software-Testing Frameworks สำหรับ Web Applications ที่ดีที่สุดตัวหนึ่ง มันมี Playback Tool สำหรับการเขียน Test โดยไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ภาษา Test Scripting ซึ่ง Java Developers สามารถใช้ Selenium ในการ Test HTML และ JSP files ของพวกเขา นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือและ Library มากมายสำหรับ Web Browser Automation หากคุณต้องทำงานเกี่ยวกับเรื่อง Automation และ Testing แล้ว Selenium ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคุณ 

5. Groovy

หากมีสักหนึ่งภาษา ที่ Java Developer ควรเรียนรู้ หนึ่งในนั้นน่าจะมี Groovy อยู่ด้วย เพราะ มันเป็นตัวเติมเต็มให้ภาษา Java คุณสามารถทำอะไรได้มากขึ้นใน Java Project ของคุณโดยใช้ Groovy แทนที่จะใช้เพียงแค่ Java ธรรมดา คุณสามารถใช้ Groovy ในการเขียน Scripts, Test Scripts และยังสามารถใช้ Frameworks ที่ได้รับความนิยมอย่าง Gradle และ Spock อีกด้วย อาจมีคนไม่รู้ว่า Apache Groovy เป็น Object-Oriented Programming Language สำหรับ Java Platform มันเป็น Dynamic Language ที่มี Features คล้ายคลึงกับ Python, Ruby, Perl และ Smalltalk อีกทั้งยังมี Syntax ที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพอีกด้วย

6. Spock

Spock เป็น Test Framework สำหรับ Java และ Groovy Applications คงต้องขอบคุณ JUnit runner ที่ช่วยให้ Spock สามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับ IDE ส่วนใหญ่, Build Tools และ Continuous Integration Servers สำหรับ Spock แล้ว ถือเป็นเครื่องมือที่ดีที่คุณควรเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการพัฒนาทักษะ Unit Testing ซึ่งเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญในการเป็น Developer ที่ดี 

7. Maven

หากคุณเป็น Java Developer ที่มีประสบการณ์แล้ว คิดว่าคุณน่าจะรู้จัก Maven มาบ้างแล้ว แต่หากคุณเพิ่งเป็น Java Developer มาได้สัก 1-2 ปี ก็เป็นเวลาที่เหมาะที่คุณควรเริ่มเรียนรู้ Maven โดย Apache Maven เป็นเครื่องมือสำหรับสร้างและจัดการกับ Project และจาก Concept เกี่ยวกับ Project Object Model (POM) Maven สามารถใช้ในการจัดการในเรื่อง Building, Reporting และ Documentation ของ Project อีกหนึ่ง Feature ที่มีประโยชน์ของ Maven คือเรื่อง Dependency Management และเนื่องจากเราใช้ 3rd Party Libraries ใน Java Project การจัดการ JAR แต่ละตัวและ Dependency อาจเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก Maven จึงแก้ปัญหาดังกล่าวด้วยการ Download  JAR ที่เหมาะสมมาให้คุณโดยอัตโนมัติ

8. Gradle

Gradle เป็นอีกหนึ่ง Build Automation System ที่เป็น Open-Source ที่ใช้แนวคิดของ Apache Ant และ Apache Maven แล้วทำให้มันก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง แถมยังเป็น Default Build Tool สำหรับ Android อีกด้วย Gradle ได้ใช้ Domain-Specific Language (DSL) แทนที่ XML ที่ใช้โดย Apache Maven เพื่อประกาศ Project Configuration ซึ่งช่วยให้เราสามารถ Configure Project Dependencies และสามารถ Customize ตามที่เราต้องการได้ง่ายขึ้น สาเหตุที่คุณเลือก Gradle ผ่าน Ant หรือ Maven ก็เพราะมันรวม Feature ที่ดีที่สุดจาก Build Tools อื่นๆ เช่น เรื่อง Flexible และ Control จาก Ant, Dependency Management จาก Ivy, Convention ผ่าน Configuration และ Plugins จาก Maven ซึ่งทำให้มันเป็น Build Tool สำหรับ Java Project ที่ดีที่สุด ​

9. Docker

Docker เป็น Open-Source Tool สำหรับ Deployment Applications บน Cloud หรือ Physical Servers โดยอัตโนมัติ มันช่วยให้ Developer และ System Admin ในการ Build, Ship และ Run Distributed Applications ได้ ไม่ว่าจะเป็นบน Laptops, Data Center VMs หรือ Cloud สำหรับ Docker สามารถทำงานร่วมกับ Cloud, Linux และ Windows Vendor รวมทั้งอีกหลายบริษัทที่โฟกัสด้าน IT Automation 

10. Linux

หากใครไม่รู้จัก Linux ควรต้องรีบเรียนรู้เป็นอันดับแรก Linux เป็นทักษะที่คุณควรได้เรียนรู้ตั้งในชั้นเรียนแล้ว แต่มันก็ไม่สายเกินไปที่จะเรียนรู้ใหม่ และมันจะยังเป็นเทคโนโลยีและทักษะที่คุณจะได้ใช้มันไปอีกนาน 

เชื่อว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับ Java Developers/Programmers ในการพัฒนาทักษะและความรู้ให้เก่งยิ่งขึ้น

ที่มา:  http://www.java67.com/

 

 

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

เพิ่มเพื่อน

 

บทความที่เกี่ยวข้อง