บทความ IT เจ๋งๆ

ในฐานะของ Software Developers เรากำลังเผชิญกับการแก้ปัญหาและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ เนื่องด้วยเวลาที่มีอย่างจำกัด คุณจึงต้องใช้มันอย่างมีประสิทธิภาพ โชคดีที่มี Tools ดี ๆ มากมายที่สามารถ Automate งานที่ซ้ำซากน่าเบื่อเหล่านั้นได้ และนี่ก็คือ 10 Productivity Tools และ Websites ที่ Developers สามารถใช้งานได้แบบฟรี ๆ

1. Code Grepper

Code Grepper เป็น Community-based Query-and-Answer System ที่ช่วยให้ Developers ได้รับคำตอบสำหรับคำถามและปัญหาของพวกเขาทันที มันประกอบด้วย Browser Extension ที่จะช่วยแนะนำ Code Snippets ที่คิดว่าอาจเกี่ยวข้องกับการค้นหาของคุณ

ไม่เพียงแต่คุณสามารถดูคำตอบของ Developers คนอื่น ๆ เท่านั้น แต่คุณยังสามารถบันทึก Code Snippets สำหรับ Search Query ของคุณได้อีกด้วย ด้วยวิธีนี้ จะช่วยให้คุณช่วยเหลือคนอื่น ๆ ที่อาจมีปัญหาเดียวกันกับคุณ หรือแม้แต่ ในกรณีที่คุณต้องค้นหาสิ่งเดียวกันอีกครั้งในอนาคต

หลายคนคิดว่ามันเป็นอีก Version ของ Stack Overflow ที่มีคนอาจมองว่า มันเป็นเพียง Tool สำหรับคนที่ชอบ Copy  ซึ่งอันที่จริงแล้ว ไม่ว่า Tool จะดีหรือแย่ แต่มันขึ้นอยู่กับคุณที่จะใช้คำแนะนำอย่างมีความรับผิดชอบและมีความเข้าใจสิ่งที่ Code ทำจริง ๆ หรือไม่ต่างหาก

2. Bootstrap

Web Developers ส่วนใหญ่คงรู้จัก Bootstrap ว่าเป็น CSS Framework ที่เป็น Open-Source และใช้งานได้แบบฟรี ๆ มันช่วยให้คุณเข้าถึง CSS และ JavaScript Design Templates สำหรับ User Interfaces ได้เป็นจำนวนมาก ในทางกลับกัน Backend Developers อาจไม่ทราบว่า Bootstrap มีประโยชน์สำหรับพวกเขามากเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากมันจะช่วยแบ่งเบาภาระในการเขียน UI Code ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งเป็นงานที่ Backend Developers มักไม่ค่อยชอบนัก 

นี่คือตัวอย่าง Template สำหรับ Product Pricing Page:

3. Online Compiler and Debugger

บางครั้ง คุณอาจจำเป็นต้อง Run หรือ Debug Code บางส่วน แต่คุณไม่ต้องการตั้งค่า Development Environment เพื่อการนั้น นี่คือจุดที่ Online Compilers จะเข้ามาช่วยเหลือคุณ ซึ่งคุณจะสามารถ Run หรือ Debug Code ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องติดตั้ง พึ่งพา หรือไปแตะต้อง System ของคุณ

อันที่จริงมีตัวเลือกสำหรับคุณมากมาย แต่ตัวเลือกที่จะแนะนำก็คือ Online GDB ซึ่งเป็น Online Debugger และ Compiler ที่รองรับภาษาต่าง ๆ มากมาย รวมถึง C, Java, Python, Rust และอื่น ๆ

4. AI Code Completion Engine

คุณเคยประสบกับความยุ่งยากในการเขียน Switch-Case Handlers ที่ทั้งยาวและซ้ำซาก หรือ enum ที่ดูเหมือนจะไม่มีที่สิ้นสุด หรือแม้แต่ Code Documentation ที่น่าเบื่อ บ้างหรือไม่? แต่คุณสามารถลืมความรู้สึกนั้นไปได้เลยด้วย AI Completion Engines ที่ทันสมัย โดย Tool ประเภทนี้จะสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพูดถึง Bottleneck ของความเร็วในการพิมพ์ของมนุษย์

ยิ่งไปกว่านั้น AI สามารถแนะนำวิธีการแก้ปัญหาเฉพาะจุดที่ต่างไปจากเดิม ซึ่งบางครั้งก็อาจจะเป็นวิธีที่คุณคิดไม่ถึง

ปัจจุบันมี AI Completion Engines อยู่เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Kite, Tabnine และ GitHub Copilot แต่ ณ ตอนนี้ GitHub Copilot ดูเหมือนจะเป็น Code และ Documentation Completion Tool ที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพมาก

5. Browser Remote IDE

สมมติว่าคุณมี Development Environment อยู่บน Cloud หรือคุณไม่ต้องการตั้งค่าบน Local Machine ของคุณ ซึ่ง Browser-based Remote IDEs อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ เนื่องจากมันช่วยให้คุณ Develop และ Run Programs ได้จากทุกที่ด้วยการใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพสูงและที่เก็บข้อมูลของ Remote Servers ตราบใดที่คุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ดี 

นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ Cloud9 IDE ของ Amazon หรือ Remote Development Extension Pack ของ VSCode ซึ่งเป็น Tool ที่หลาย ๆ คนใช้งาน

6. Wappalyzer

บางครั้ง คุณอาจต้องการรู้ว่าเทคโนโลยีใดบ้างที่ Website ใช้ ไม่ว่าคุณจะต้องการทราบว่ามันทำงานอย่างไร หรือเพื่อใช้ประโยชน์บางอย่างก็ตาม คุณน่าจะต้องการใช้ Wappalyzer เพราะมันเป็น Browser Extension ที่ช่วยให้คุณได้รับข้อมูลเกี่ยวกับ Frameworks และ Libraries ที่ Websites ใช้ได้แบบฟรี ๆ แต่สำหรับ Paid User คุณจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับ Contact Details และ Monitor Changes อีกด้วย

7. Valgrind

เมื่อต้องทำงานกับ Low-Level Programs จุดบกพร่องที่น่าเบื่อที่สุดจะเกิดจาก Memory Errors และ Leaks เช่น การเข้าถึง Uninitialized Pointer หรือ Overrunning Buffer ซึ่งคุณสามารถแก้ปัญหาด้วย Valgrind เพราะมันเป็น Memory Profiling Tool ที่สามารถตรวจจับการรั่วไหลและปัญหาอื่น ๆ ระหว่าง Program Runtime

Valgrind เป็นสิ่งที่ต้องมีสำหรับ C/C++ Developers เนื่องจากพวกมันต้องทำงานบน Memory โดยตรงอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ Engineers ผู้เชี่ยวชาญก็ยังทำผิดพลาดได้ และสิ่งที่เกี่ยวกับ Memory มักจะตรวจพบได้น้อยที่สุด คุณจะพบข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาของสิ่งเหล่านี้หลังจากมันเกิดขึ้นนานแล้ว เมื่อคุณได้รับข้อผิดพลาดบางอย่างหรือผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด บางครั้งพวกมันอาจแพร่กระจายโดยไม่มีใครสังเกตเห็นเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว จนกว่าคุณจะได้ใช้ Feature บางอย่างของ Program ของคุณ ในกรณีนี้ คุณจะทราบได้อย่างไรว่า ส่วนใดของ Code ที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาด 

8. Cloud Shell

สมมติว่าคุณไม่มีสิทธิ์เข้าถึง Machine จริงของคุณ หรือคุณเพียงแค่ไม่ต้องการ Run Shell ใน Machine ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม รวมถึง Performance หรือภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น คุณสามารถใช้ Cloud Shells เพื่อการนี้ ในบรรดาตัวเลือกทั้งหมด สิ่งที่หลายคนนิยมใช้คือ Google Cloud Shell ซึ่งเป็น Debian-based Bash Shell ที่ใช้งานได้ฟรี ๆ ซึ่งช่วยให้คุณสามารถทำทุกอย่างที่คุณทำบน Machine ปกติได้ 

Cloud Shells มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อคอมพิวเตอร์ของคุณไม่มี Resources เพียงพอที่จะ Run บาง Programs ด้วยการใช้ประโยชน์จาก Remote Servers อันทรงพลัง คุณสามารถทำงานของคุณคู่ขนานไปได้ และมันช่วยประหยัดเวลาของคุณได้มาก นอกจากนี้ โปรดทราบว่าแม้แต่ Cloud Containers ขนาดเล็กก็สามารถทำงานได้เร็วกว่า Local Machine ของคุณ ตัวอย่างเช่น Free Google Cloud Shell ที่มี vCPU เพียง 2 ตัว ก็สามารถ Compile ตัว Compiler นี้ได้ในเวลาเพียง 20 วินาที เทียบกับ 27 วินาทีของ Intel i7 8-core PC คงต้องขอบคุณ Intel Xeon Processor อันทรงพลัง 

9. Hexadecimal Editors

Software Developers ส่วนใหญ่อาจไม่ค่อยได้ใช้ Hex Editor เป็นประจำ เนื่องจากงานของพวกเขาไม่ต้องการมัน หรือเพียงเพราะพวกเขาไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์มากแค่ไหน หากคุณเป็น Programmer ที่รักการสร้าง Compilers คุณอาจจะตรวจสอบ Binaries ที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้ Hex Editor Extension ของ VSCode หากคุณต้องใช้ Online Tool ขอแนะนำให้ลองใช้ HexEd.it (มันยังมี Dark Theme ด้วย)

หากคุณต้องทำงานกับ File อื่นที่ไม่ใช่ Plain Text มันเป็นไปได้ที่คุณจะหลงรัก Hex Editors พวกมันช่วยคุณอย่างมากในการ Debug โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาการจัด Format ของ Data

10. GitHub Gists

หากคุณเป็นนักเขียนบทความเกี่ยวกับ Programming ใน Medium คุณอาจต้องการแสดง Code ในบทความของคุณ แม้ว่า Medium จะมี Built-in Code Feature แต่มันก็ยังคงห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบ จึงขอแนะนำให้คุณลองใช้ GitHub Gists ในการแชร์ Code Snippets ที่สามารถจัดรูปแบบและทำการ Highlight สี ผ่านทางอินเทอร์เน็ตได้

นอกจาก GitHub จะมี Syntax Highlighting สำหรับภาษา Programming หลัก ๆ แล้ว ยังได้ Storage ฟรีสำหรับ Gist ของคุณอีกด้วย นอกจากนี้มันยังสามารถถูก Embed เป็น HTML Elements ใน Web Pages และปัจจุบันมันยังได้รับการ Support จากหลาย ๆ Platforms รวมถึง Medium ด้วย

ที่มา:  https://betterprogramming.pub/

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

บทความล่าสุด

• 6 Linux Utilities ที่คุณอาจไม่ค่อยได้ใช้ แต่มีประโยชน์มาก
• 5 Open Source Projects ที่ช่วยปรับมุมมองการพัฒนา Web ในปี 2022
• 6 Algorithms พื้นฐาน ที่ Developer ควรรู้จักไว้