5 Open Source Projects ที่ช่วยปรับมุมมองการพัฒนา Web ในปี 2022

23-มี.ค.-22

คัมภีร์เทพ IT

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Open Source Projects ถือเป็นแรงผลักดันสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนา Web สมัยใหม่ มี Projects ดี ๆ มากมาย ที่ช่วยปรับปรุงวิธีที่เราจัดการกับ Frontend, Backend และสามารถนำ Features ใหม่และมีนวัตกรรมไปใช้ได้ง่ายขึ้น ในบทความนี้จะแนะนำ 5 Open Source Projects ที่ช่วยปรับมุมมองการพัฒนา Web ในปี 2022 ซึ่งพวกมันล้วนเป็น Projects ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

1. Appsmith

Stars: 13.4K+ | GitHub | Community

Appsmith เป็น Open-Source Framework เพื่อสร้าง Business Software ที่สามารถ Custom ได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น admin panels, internal tools, dashboards และอื่น ๆ ด้วย Pre-built UI Widgets ที่เชื่อมต่อกับ Databaseต่าง ๆ เช่น GraphQL หรือ REST API ที่สามารถควบคุมทุกอย่างด้วย JavaScript

Software ดังกล่าว มักใช้ในองค์กรต่าง ๆ หลายแห่ง บ่อยครั้งที่ Developers ใช้เวลามากมายไปกับบางเรื่อง เช่น React หรือ Angular ที่ใช้สร้าง Applications เหล่านี้

ปัจจุบัน Appsmith มีมากกว่า 15+ Datasources และ 35+ UI Widgets ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับทีมและผู้ที่ชื่นชอบการสร้าง Personal หรือ Internal Apps ที่สามารถ Customize ได้ ซึ่งเก็บอยู่บน Platforms ต่าง ๆ อีกทั้ง Appsmith ยังเสนอ Free Cloud Community Edition พร้อม Features ที่จำเป็นทั้งหมดที่ต้องใช้ในการสร้าง Internal Tool ที่สมบูรณ์แบบ

แล้ว Appsmith สามารถปรับมุมมองการพัฒนา Web ได้อย่างไร?

แทบจะทุกองค์กรหรือแม้แต่คนพัฒนา Web เอง ต่างก็ต้องการ Internal Application ในบางจุด ซึ่งแทนที่จะสร้างทุกอย่างทั้งหมดตั้งแต่ต้น Open-Source Low-Code Tool ตัวนี้จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการช่วยลดต้นทุนการ Develop, ประหยัดเวลา และช่วยให้ Developers รวมทั้งธุรกิจ สามารถไป Focus ในส่วนอื่น ๆ ที่สำคัญกว่าได้

2. Appwrite

Stars: 17.7K+ | GitHub | Community

Appwrite เป็น Open-Source แบบ End-to-End Backend Server สำหรับ Frontend และ Mobile Developers ที่ช่วยให้คุณสามารถสร้าง Apps ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เป้าหมายของมันก็คือ การช่วยลดความซับซ้อนของ Development Tasks ในแต่ละวัน ที่อยู่เบื้องหลัง REST API และ Tools ต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยให้ Developers สามารถสร้าง Apps ที่มีความซับซ้อน ได้รวดเร็วขึ้นกว่าเดิม

Framework ที่ยอดเยี่ยมนี้ จะช่วยประหยัดเวลาของ Developers ได้มาก ด้วยการเติมเต็มความต้องการด้านต่าง ๆ ของ Backends ทั้งหมด รวมถึง Database, Storage, Users, Geo & Localization, Functions, Console, Privacy และ Security ปัจจุบัน Appwrite Server ถูกมัดรวมกันเป็น Docker Container ที่คุณสามารถ Set up ได้อย่างง่ายดายโดยใช้ Docker-Compose Command ง่าย ๆ จาก Terminal ของคุณ ไม่ว่าจะบน Local Machine ของคุณหรือ Cloud Provider ต่าง ๆ 

ทีม Appwrite วางแผนที่จะเปิดตัว Cloud Version เพื่อลดการ Configurations ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับ Self-Hosting

แล้ว Appwrite สามารถปรับมุมมองการพัฒนา Web ได้อย่างไร?

การ Develop และการ Maintain Backend ไม่ใช่เรื่องง่าย ในปี 2022 นี้ การใช้ Tools อย่าง Appwrite เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดส่ง Applications ได้เร็วขึ้น ซึ่งไม่เพียงจะช่วยประหยัดเวลาเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ Developers สามารถควบคุม Backend ในระดับต่าง ๆ ได้อย่างสมบูรณ์ด้วยการ Customize ที่ง่ายมาก 

3. Hasura

Stars: 26.2K+ | GitHub | Community

คงไม่ต้องแนะนำ Hasura ให้มากมาย เพราะมันถูกใช้งานกันมาระยะหนึ่งแล้ว และมันก็เป็นหนึ่งใน Projects ที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดใน Open-Source Community

Hasura GraphQL Engine เป็น GraphQL Server สำหรับ API GraphQL ที่ช่วยให้คุณสร้างการเชื่อมต่อและจัดการสำหรับ Postgres Database พร้อมด้วย Webhook Triggers บน Database Events และ Remote Schemas สำหรับ Business Logic

ดังนั้น หากคุณต้องการ GraphQLAPI Engine ที่เร็วสุดโดยไม่ต้องเขียน Code ใด ๆ Hasura คือตัวเลือกที่ลงตัวอย่างมาก ในปีที่ผ่านมา Hasura แข็งแกร่งขึ้นด้วย Features ต่าง ๆ เช่น Serverless Functions, Fine-Grained Access Control, Admin UI & Migrations และอื่น ๆ อีกมากมาย

Hasura สามารถทำงานได้ทุกที่ ตั้งแต่ Local Machine ของคุณ, Heroku Free Tier ไปจนถึง Server บน Amazon, Google หรือ Microsoft มันถูกใช้และเป็นที่ชื่นชอบของ Technologists ที่ทำงานให้กับองค์กรที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกและ Startups ต่าง ๆ

แล้ว Hasura สามารถปรับมุมมองการพัฒนา Web ได้อย่างไร?

Hasura เป็น Tool ที่มีมาตรฐานอยู่แล้วสำหรับการสร้าง GraphQL API ที่มีประสิทธิภาพ และในปี 2022 นี้ Developer Communities หลายแห่งวางแผนที่จะ Migrate ไปยัง GraphQL-Based Backends เพื่อความรวดเร็วและความสามารถในการปรับ Scale

4. Plasmic

Stars: 1.4K+ | GitHub

Plasmic ช่วยให้ผู้ที่ไม่ได้เป็น Developers สามารถสร้าง Pages และ Content การนำเสนออื่น ๆ ได้ ส่วนคนที่เป็น Developers เองก็สามารถนำมาใส่ใน Website ที่มีอยู่และ Web Application Codebase ได้

Plasmic มีการยอมรับ Logic, Data และ Behavior ด้วย Code ที่ Custom ได้ สำหรับ Digital Component Interactions ที่ซับซ้อนมากขึ้น คุณยังสามารถขยายการใช้งาน Plasmic ได้ด้วยการสร้าง UI Components ของคุณเอง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ Framework ที่คุณใช้

ไม่ว่าจะ Designers, Marketers, Product Managers และบุคลอื่น ๆ ก็สามารถใช้ Plasmic เพื่อสร้าง Pages ได้ ไม่ว่าจะเป็น Landing Pages, Content Pages ไปจนถึง Page Templates ซึ่งมันช่วยในเรื่อง ประหยัดเวลาและการสื่อสารระหว่างทีมได้มาก พูดง่าย ๆ ก็คือ Plasmic สามารถเป็น Webflow ทางเลือกที่เป็นมิตรกับ Developers ซึ่งช่วยให้สามารถควบคุม Frontend ได้อย่างเต็มที่

สำหรับ Use Case ที่พบบ่อยที่สุดก็คือ การใช้ Plasmic Designs อย่าง CMS Content ผ่าน API อีกทั้งคุณยังสามารถ Generate Code ลงใน Codebase ของคุณได้ หรือแม้แต่ Publish Pages ไปยัง Platforms ต่าง ๆ อย่าง Shopify ได้  จะว่าไปแล้ว Plasmic ก็มีเป้าหมายที่จะเป็นตัว Builder ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายที่สุดและสามารถ Integrate เข้ากับทุก Environment ได้

แล้ว Plasmic สามารถปรับมุมมองการพัฒนา Web ได้อย่างไร?

Plasmic สามารถเป็น Product ที่ปฏิวัติวงการ Web ได้ มันช่วยให้ Marketers, Designers, ทีม Content สามารถจัดส่ง Applications ได้โดยตรง โดยที่ไม่ต้องให้ Developers คอยจัดการให้ นอกจากมันจะค่อนข้างดูง่ายในช่วงเริ่มต้นแล้ว Plasmic ยังมี Tools ที่คุณอาจไม่เคยเห็นใน Design Tool หรือ Page Builder ใด ๆ มาก่อน ซึ่งจะช่วยให้คุณสร้าง Frontends ที่สามารถ Maintain ได้ตาม Scale ที่ต้องการ 

5. Supabase

Stars: 29.9K+ | GitHub | Discord

Supabase เป็น Open-Source ทางเลือกของ Firebase และมันได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถ Setup Backend ของคุณได้อย่างรวดเร็ว โดยมันมุ่งเน้นไปที่การจัดเตรียมสิ่งจำเป็น 4 เรื่องเป็นหลัก ซึ่งก็คือ Database (Postgres), Auth, File Storage และ Auto-Generated APIs

สิ่งเหล่านี้สามารถถูก Set up และใช้งานได้โดยตรงจาก Dashboard ที่ยอดเยี่ยมโดยที่ไม่ต้องเขียน Code ใด ๆ นอกจากนี้ มันยังสามารถ Customize และปรับแต่งได้ตาม Code ที่เราต้องการได้อีกด้วย

ไม่เพียงแค่นั้น Supabase ยังมาพร้อมกับ Client ซึ่งทำให้ Developers สามารถสร้าง Product ที่ปลอดภัยและปรับ Scale ได้ง่าย หากคุณยังเป็นมือใหม่และเพิ่งเริ่มต้นใช้งาน ขอแนะนำให้คุณลองฝึกฝนจาก Course ฟรี ของ Egghead

ปัจจุบัน Supabase สามารถใช้บน Cloud Version หรือ Self-Hosted บน Infrastructure ของเราเองโดยใช้ Docker คุณสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ ไม่เพียงแค่ Products เท่านั้น Supabase ยังมี Documentation และ Community ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย พวกเขาเปิดเผยแหล่งที่มาแทบทุกอย่างที่พวกเขาสร้าง แม้แต่ UI Library และ Dashboard

แล้ว Supabase สามารถปรับมุมมองการพัฒนา Web ได้อย่างไร?

Supabase เป็น Open-Source ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ Firebase ของ Google และนำเสนอ Features ที่ยอดเยี่ยมบางอย่างที่ Real-Time Database Solutions อื่น ๆ ไม่มี ด้วยเหตุนี้ Developers จึงสามารถใช้เวลาไปกับการ Focus ไปที่ Product มากกว่าการ Configure Backend 

ที่มา:  https://betterprogramming.pub/

 

 

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

เพิ่มเพื่อน

 

บทความล่าสุด