12 VS Code Extensions ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ Python Developer
26-พ.ย.-25
คัมภีร์เทพ IT
VS Code เป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักของ Python Developer เพราะสามารถปรับแต่งและมีความยืดหยุ่นสูงผ่าน Extensions ได้ การเลือก Extensions ที่เหมาะสมจะช่วยให้เขียน Code ได้เร็วขึ้น, ลดข้อผิดพลาด และทำงานได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม บทความนี้จึงได้คัด 12 VS Code Extensions ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ Python Developer มาให้เรียนรู้กัน
1. Python (Extension อย่างเป็นทางการจาก Microsoft)
Extension แรกที่แนะนำให้ติดตั้งคือ Official Python Extension จาก Microsoft ซึ่งมันจะให้ทุกอย่างที่ Developer ต้องการ ทั้ง IntelliSense, Code Navigation, Refactoring, Linting และ Debugging
ถ้าคุณลอง Run Python Script พร้อมตั้ง Breakpoint ใน VS Code มันอาจทำให้คุณรู้สึกดี เมื่อเทียบกับการต้องสลับไป-มาระหว่าง Terminal และ Editor

2. Pylance: IntelliSense ที่เร็วสุด ๆ
Pylance Extension จะทำให้ระบบ Autocomplete ราบรื่นขึ้นได้ Extension นี้มีการใช้ Static Type Checking เพื่อช่วยตรวจสอบ Code ถ้าคุณลองใช้ Type Hints ใน Project เจ้า Pylance จะช่วย Highlight ส่วนที่ผิดให้ทันที ซึ่งสิ่งนี้ไม่เพียงช่วยให้ Code มีคุณภาพมากขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาทำงานกับ Codebase ขนาดใหญ่ด้วย

นี่คือตัวเปลี่ยนเกมที่จะช่วยให้สามารถจับ Type Error ที่เกิดขึ้น ได้ตั้งแต่ต้นเนิ่น ๆ
3. Black Formatter
คงมี Developers หลาบคนที่อาจเคยเสียเวลากับการถกเถียงเรื่อง Code Style ใน Pull Request มาบ้าง แต่ปัญหานี้จะหมดไปถ้าคุณได้รู้จักกับ Black เพราะ Black Extension ใน VS Code จะช่วยจัด Format ให้โดยอัตโนมัติทุกครั้งที่กดบันทึก ส่วนที่ดีมาก ๆ ของ Black ก็คือ มีการใช้ Style ที่สอดคล้องกันหมด ทำให้คุณไม่ต้องมานั่งคิดว่า จะวางเว้นวรรคหรือตัดเพื่อขึ้นบรรทัดใหม่อย่างไร เพราะ Black จะช่วยจัดการให้เองทั้งหมด

จากนี้ไป ทุก Python Files ใน Project จะดูเหมือนถูกเขียนโดยคนคนเดียวกัน แม้จะมีสมาชิกในทีมหลายคนก็ตาม
4. Flake8 สำหรับ Linting
ในขณะที่ Black ช่วยจัด Format ของ Code ให้ เจ้า Flake8 จะช่วยทำให้ Code มีความ Clean ขึ้น โดยใช้ Guidelines ของ PEP8 และช่วยหา Bugs ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เช่น มันจะแจ้งเตือนการ Import หรือการประกาศตัวแปรที่ไม่ได้ใช้งาน เพราะมันอาจสร้างความสับสนในอนาคตได้

เมื่อนำ Flake8 มาจับคู่ใช้งานกับ Black ก็จะได้ความสมดุลระหว่าง Style และ Safety ที่สมบูรณ์แบบ
5. Jupyter Notebook Support
ถ้าคุณเป็น Data Scientist เชื่อว่า Jupyter Notebook น่าจะเป็นเครื่องมือที่คุณใช้งานแทบจะทุกวัน
โดย Jupyter Extension ใน VS Code จะช่วยให้สามารถ Run Notebook ได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องออกจาก Editor เลย คุณสามารถ Run Cells, ดู Graph และเชื่อมต่อกับ Jupyter Servers แบบ Remote ได้

ด้วยการทำงานลักษณะนี้ จะช่วยให้คุณไม่ต้องเปิด Browser เพื่อทดสอบงานเล็ก ๆ อีกต่อไป
6. Python Docstring Generator
การเขียน Docstring อาจเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับหลาย ๆ คน แต่ Extension นี้จะช่วยทำให้ง่ายขึ้น เพียงแค่พิมพ์ """ หลัง Function Definition จากนั้น Extension จะสร้าง Template ให้โดยอัตโนมัติตามชื่อ Parameter
Feature เล็ก ๆ นี้ สามารถช่วยให้คุณเขียน Documentation ได้ดีขึ้นและช่วยประหยัดเวลาได้มากขึ้น โดยเฉพาะตอนที่ต้องทำงานกับ Projects ขนาดใหญ่

ตอนนี้ คุณจะสามารถเขียน Code ที่อ่านและ Maintain ได้ง่ายขึ้น โดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายามให้มากมาย
7. Python Test Explorer
อาจมี Developers หลายคน ที่เคยหลีกเลี่ยงการเขียน Test มาก่อน แต่ Python Test Explorer จะช่วยเปลี่ยนความคิดของคุณได้ โดยมันจะช่วย Integrate ทั้ง pytest และ unittest เข้ากับ VS Code ได้โดยตรง ทำให้คุณสามารถ Run Tests ได้ในคลิกเดียว, ดูผลลัพธ์ใน Sidebar และ Debug Test ที่พังอยู่ได้ในทันที

Extension นี้ ยังช่วยให้คุณมีวินัยในการเขียน Test อย่างสม่ำเสมอและช่วยลดปัญหาก่อนการ Deploy ได้
8. Docker Extension
มี Python Apps จำนวนมากที่นิยม Run ภายใน Docker Containers ไม่ว่าจะเป็น ML Model หรือ Flask APIs เจ้า Docker Extension ใน VS Code จะช่วยให้สามารถ Build, Run และจัดการ Containers ได้อย่างชัดเจน โดยที่คุณไม่ต้องจำคำสั่งยาว ๆ ของ Docker อีกต่อไป ทุกอย่างถูกจัดการได้จากตัว Editor ได้โดยตรง

สิ่งนี้จะช่วยให้ Pipeline ของการ Deploy ราบรื่นขึ้นกว่าเดิมและช่วยลดโอกาสการเกิด Error อีกด้วย
9. REST Client สำหรับทดสอบ API
ตอนเริ่มพัฒนา Python API ด้วย Flask หรือ FastAPI เหล่า Developer มักต้องสลับไปมาระหว่าง VS Code และ Postman เพื่อทดสอบ Endpoint ต่าง ๆ ซึ่งเจ้า REST Client Extension จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เพราะสามารถส่ง HTTP Requests และดูผลลัพธ์ได้ภายใน VS Code ได้โดยตรง

Extension เล็ก ๆ นี้จะช่วยให้การทดสอบ API สะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือแยกต่างหาก
10. SQLTools
มี Python Projects จำนวนไม่น้อยที่เชื่อมต่อกับ Databases ซึ่ง SQLTools จะช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อไปยัง MySQL, PostgreSQL หรือ SQLite จาก VS Code ได้โดยตรงแทนที่จะต้องสลับไป-มาระหว่าง DB Client กับ Editor ทำให้ Developer สามารถ Query และ Debug ได้ตรงจุดที่เขียน Code ได้เลย

มันถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยลดเวลาในการสลับบริบทการทำงานลงได้และเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน
11. Python Environment Manager
การจัดการ Python Environments ต่าง ๆ เช่น venv, conda และ Docker อาจเป็นขั้นตอนที่สร้างความสับสนสำหรับหลายคน เจ้า Environment Manager Extension สามารถช่วยให้การ Create, Switch และใช้งาน Environments ต่าง ๆ ทำได้สะดวกโดยที่ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับ Command Line มันช่วยให้ Projects แยกกันอย่างชัดเจนและลดปัญหาเรื่อง Dependency ปะปนกัน
12. Live Share สำหรับทำงานร่วมกัน
เมื่อต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม Live Share จะช่วยทำให้ Developer สามารถทำงานแบบ Pair Programming กับเพื่อนร่วมทีมแบบ Real-time ได้ ไม่ว่าจะกำลัง Debug ML Models หรือการเขียน Django Code เราก็สามารถทำงานร่วมกันเหมือนนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะเดียวกันได้ โดยที่ไม่ต้อง Share Screen เลย
สรุป
และนี่ก็คือ 12 VS Code Extensions ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ Python Developer และด้วย Extensions ที่เหมาะสม VS Code จะสามารถทำงานได้ทรงพลังไม่แพ้ IDE เต็มรูปแบบสำหรับ Python ซึ่ง Extensions ทั้ง 12 ตัวนี้จะช่วยให้การเขียน Code การจัดการ Project และการทดสอบ มีความราบรื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หากคุณอยากเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน นี่คือชุดของ Extensions ที่มีประโยชน์ต่อการเขียน Code ของ Python Developer
ที่มา: https://levelup.gitconnected.com/
รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert
อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ
บทความล่าสุด

