10 Browser Extensions ที่ช่วยให้ Developer ทำงานง่ายขึ้น
02-ต.ค.-25
คัมภีร์เทพ IT
Browser ของคุณไม่ใช่แค่เครื่องมือท่อง Web แต่สามารถกลายเป็น Superpower ของ Developer ได้ บทความนี้รวม 10 Browser Extensions ที่ช่วยให้ Developer ทำงานง่ายขึ้น ตั้งแต่ Debug Code, ตรวจสอบ Performance ไปจนถึงจัดการ Workflow ให้ลื่นไหลและมีประสิทธิภาพ
1. React Developer Tools
ทำอะไรได้บ้าง:
ถ้าคุณทำงานกับ React นี่คือของที่ต้องมี เพราะ React DevTools จะช่วยให้คุณตรวจสอบ Component Tree, Props และ State ได้แบบ Real-Time อีกทั้งยังสามารถดู Hooks, Context และติดตาม Re-render ได้ด้วย
ทำไมถึงสำคัญ:
คำถามยอดฮิตอย่าง “ทำไม Component ของเราถึงต้อง Re-render เป็นร้อยครั้ง?” จะได้คำตอบเสียที
ดาวน์โหลดได้ที่:
Chrome, Firefox, Edge
2. Redux DevTools
ทำอะไรได้บ้าง:
สำหรับคนที่ใช้ Redux สามารถตรวจสอบ State Tree, ดูทุก Action ที่ถูก Dispatch และถึงขั้น “Time-travel” ไปตาม State Changes ได้เลย
ทำไมถึงสำคัญ:
เวลาที่ State ของ App มีความซับซ้อนมากจนดูไม่ออก เจ้า Redux DevTools จะช่วยทำให้เห็นชัด ๆ ว่า “ใครทำอะไรและเมื่อไหร่”
เคล็ดลับ:
สามารถใช้คู่กับ remote-redux-devtools เพื่อตรวจ Debug บน React Native ได้ด้วย
3. Postman Interceptor
ทำอะไรได้บ้าง:
ถ้าคุณใช้ Postman ในการทดสอบ API เจ้า Extension นี้จะช่วยให้ Postman จับ Cookies และ Headers จาก Browser ได้โดยอัตโนมัติ
ทำไมถึงสำคัญ:
มันเหมาะมากสำหรับ Debug Request ที่ต้องการ Authentication และอิงกับ Session บน Browser ทำให้ไม่ต้อง Copy-Paste Tokens เองอีกต่อไป
แนะนำเพิ่มเติม:
สามารถใช้คู่กับ Postman App เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ครบครัน
4. JSON Viewer Pro
ทำอะไรได้บ้าง:
คุณเคยเบื่อกับการต้องเพ่ง JSON Responses อยู่ใน Browser บ้างไหม? JSON Viewer อย่าง JSON Formatter หรือ JSON Lite จะช่วยจัด Format และใส่สีเพื่อให้อ่านง่ายขึ้น
ทำไมถึงสำคัญ:
เวลาทำงานกับ REST API จะช่วยให้ถนอมสายตา และทำให้หาช่องที่หายไปได้ง่ายขึ้นมาก
เคล็ดลับ:
เลือกตัวที่รองรับการ Collapse/Expand Object ที่ซ้อนกันได้
5. Wappalyzer
ทำอะไรได้บ้าง:
อยากรู้ไหมว่า Web เจ๋ง ๆ เขาใช้ Tech Stack อะไรกันบ้าง? Wappalyzer จะแสดงให้เห็น Framework, CMS, Analytics, Server Stack และแม้กระทั่ง CDN ที่อยู่เบื้องหลัง Web นั้น
ทำไมถึงสำคัญ:
มันเหมาะทั้งการ Research คู่แข่ง, หาแรงบันดาลใจ หรือตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของคุณได้
แนะนำเพิ่มเติม:
สามารถ Export ข้อมูลเทคโนโลยีออกมาเพื่อวิเคราะห์ต่อได้
6. Lighthouse
ทำอะไรได้บ้าง:
Lighthouse คือเครื่องมือทางการจาก Google สำหรับการตรวจสอบ Performance, Accessibility, SEO และ Best Practices ของ Web
คุณสามารถ Run ได้จาก Chrome DevTools หรือผ่าน Extension ก็ได้
ทำไมถึงสำคัญ:
มันจะช่วยตรวจหา Assets ที่โหลดช้า, ปัญหา Accessibility หรือ Metadata ที่ขาดหายไป และแก้ไขก่อนที่ Users (หรือ Google) จะแจ้งเตือนคุณ
เคล็ดลับ:
ควร Run ใน Incognito Mode เพื่อลดการรบกวนจาก Extensions อื่น
7. Web Developer
ทำอะไรได้บ้าง:
มีเครื่องมือนี้ ก็เปรียบเหมือนคุณมี Swiss Army Knife ของ Front-end Developers เลยก็ว่าได้ คุณสามารถสลับเปิด/ปิด CSS, ปิด JavaScript, Outline Elements, Inspect รูปภาพ, Validate HTML และอื่น ๆ อีกเยอะมาก
ทำไมถึงสำคัญ:
มันจะช่วยชีวิตของคุณ เวลาที่ต้อง Debug Layout ที่มีปัญหา หรือทดสอบว่า Web ยังทำงานได้อยู่ไหมถ้าไม่มี JavaScript
ดาวน์โหลดได้ที่:
Chrome, Firefox
8. User-Agent Switcher
ทำอะไรได้บ้าง:
เปลี่ยน User-Agent String ของ Browser เพื่อทดสอบว่า Web จะทำงานอย่างไรบน Devices, Bots หรือ Browser ต่าง ๆ
ทำไมถึงสำคัญ:
มันเหมาะอย่างมากสำหรับการทดสอบ Redirect, Mobile Version หรือ Content สำหรับ Bot โดยเฉพาะ
เคล็ดลับ:
สามารถใช้คู่กับ Chrome Device Toolbar เพื่อการทดสอบ Responsive ที่ละเอียดขึ้น
9. Dark Reader
ทำอะไรได้บ้าง:
เพิ่ม Dark Mode ให้ทุก Web พร้อมปรับ Brightness และ Contrast ได้ตามใจชอบ
ทำไมถึงสำคัญ:
เวลาคุณต้องทำงานดึก ๆ จะได้ไม่แสบตา อีกทั้งบางที Dark Mode ยังช่วยเผย CSS Bug แปลก ๆ ที่โผล่มาเฉพาะ Dark Themes ได้อีกด้วย
เคล็ดลับ:
คุณสามารถสลับแต่ละ Web หรือสามารถปิดใช้งานได้เมื่อจำเป็น
10. Tab Manager Plus
ทำอะไรได้บ้าง:
ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเปิด Tab เยอะ ๆ (30+ ขึ้นไป) Extension นี้จะช่วยให้ค้นหา, ปิด และจัดการ Tab ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น
ทำไมถึงสำคัญ:
หมดปัญหาว่า “แล้ว Tab ไหนคือ Local Dev Server ของเรากันแน่?”
แนะนำเพิ่มเติม:
บาง Versions ก็มีการรองรับการค้นหา, จัดกลุ่ม Tab และ Keyboard Shortcuts
สรุป
และนี่ก็เป็น 10 Browser Extensions ที่ช่วยให้ Developer ทำงานง่ายขึ้น เพราะการเลือกใช้ Browser Extensions ให้เหมาะสมสามารถยกระดับการทำงานของคุณได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการ Debug, ตรวจสอบ Performance, หรือจัดการ Tabs ให้เป็นระเบียบ การมีเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้คุณทำงานได้เร็วขึ้น ลดข้อผิดพลาด และทำให้ Code ของคุณมีคุณภาพสูงขึ้น
ที่มา: https://javascript.plainenglish.io/
รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert
อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ
บทความล่าสุด