8 Must-Know Free & Open-Source Tools For Developers

22-Mar-24

คัมภีร์เทพ IT

See the original english version Click here!

 

ด้วยการเติบโตและความก้าวหน้าอย่างมากของเทคโนโลยี Developers จึงถูกคาดหวังมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พวกเขาต้องการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการมี Tools ที่เหมาะสมก็สามารถช่วยพวกเขาได้ และ Open-Source Tools ก็เป็นทางเลือกที่ดี ดังนั้น บทความนี้จะกล่าวถึง 8 Open-Source Tools ที่เหมาะสำหรับ Developers

อะไรที่ทำให้เรียกว่าเป็น Tools ที่ดี

เชื่อว่าแต่ละคน ก็คงมีเกณฑ์เป็นของตนเอง แต่หนึ่งในคำตอบก็คงเป็นเรื่อง “ประหยัดเวลา”

หลายคนอาจเจอปัญหาเรื่องการต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ Tools ที่มีประโยชน์เป็นจำนวนมาก เพื่อลดปัญหานั้น เราควรจำกัดการใช้ Tools ให้มีจำนวนที่เหมาะสม แต่ยังสามารถตอบโจทย์การทำงานหลัก ๆ และช่วยประหยัดเวลาทำงานของเราได้ 

ขณะเดียวกัน แม้เราจะเลือก Tools มาจำนวนหนึ่งและคิดว่าพวกมันตอบโจทย์การทำงานแล้ว แต่ก็อาจยังมีปัญหาในเรื่อง ความเข้ากันได้อีกเช่นกัน

ตามหลักแล้ว Tools ที่ดีจะต้องมาพร้อมกับ Documentation และ Community ที่ดี การที่จำเป็นต้องมี Documentation ที่ดีก็เนื่องจาก คงไม่มีประโยชน์อะไรถ้าคุณไม่รู้วิธีใช้งาน Tools เหล่านั้น และ Community ก็จำเป็นเช่นกันเพราะ พวกเขาสามารถช่วยเหลือคุณได้ในกรณีที่เกิดปัญหา และแม้แต่พัฒนา Plugins หรือการปรับปรุงทุกประเภทสำหรับ Tools เหล่านั้น

สุดท้ายนี้ Tools จำเป็นต้องได้รับการ Update อยู่เป็นประจำ มันคงน่าหงุดหงิด หากคุณเจอ Bugs ต่าง ๆ แต่ไม่สามารถแก้ไขได้ เนื่องจาก Projects ไม่ได้รับการ Maintain อีกต่อไปแล้ว (นอกเหนือจากการแก้ไข Bugs ด้วยตัวเอง) 

เรามาดูกันว่า Tools ที่เป็น Open-Source และใช้งานได้แบบฟรี ๆ มีอะไรบ้าง

1. VSCode

คงมีหลายคนที่เริ่มต้นด้วย VS Code เพราะ มันเป็น Open-Source Code Editor ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด Tool หนึ่ง มันมีน้ำหนักเบามากและพร้อมใช้งานในทุกระบบปฏิบัติการ รองรับภาษา Programming หลายภาษาและยังสามารถสนับสนุนภาษาอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดีโดยการเพิ่ม Plugins เข้าไป

VS Code ตรงตามเกณฑ์ทั้งหมดของ Tool ที่ดี คือ สามารถประหยัดเวลา มีการทำ Documentation มาเป็นอย่างดี มีการ Update ทุกเดือน และได้สร้างชื่อเสียงต่อเนื่องมานานโดยมี Community ที่ดีมากอยู่เบื้องหลัง และสามารถ Integrate รวมกับ Tools ต่าง ๆ มากมาย

ถ้าพูดถึง Tools ที่ดูเหมือนจะใช้ทดแทนกันได้ก็คือ Vim เรียกได้ว่า มันเกือบจะเหมือนกัน แต่ปัญหาคือ Vim ไม่ใช่ Code Editor มันเป็นแค่ Text Editor ธรรมดาซึ่งคุณสามารถปรับแต่งด้วย Plugins เพื่อทำให้มันเป็น Code Editor หรือแม้แต่ IDE ได้ แต่นั่นต้องใช้เวลาและไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการจะทำ หากคุณชอบ Vim ควรใช้ VS Code กับ Vim Plugin แทนที่จะเปลี่ยน Vim ให้เป็น VS Code

2. Vercel

Vercel เป็น Deployment และ Collaboration Platform สำหรับ Web Developers โดย Vercel จะช่วยให้คุณสามารถ Deploy Web Services ได้ทันทีและไม่มีค่าใช้จ่าย แต่คุณก็สามารถจ่ายเงินได้หากต้องการขยายขนาดเป็น Hosting ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Vercel ได้รับการออกแบบมาเพื่อ Front-End Deployment เป็นหลัก แต่คุณก็สามารถ Deploy APIs ได้หลายรายการ แม้ว่าการ Configuration จะมีความซับซ้อนเล็กน้อยซ่อนอยู่ก็ตาม

คุณสามารถใช้งาน Vercel ได้อย่างดี ไม่ว่าคุณจะเป็น Developer ที่ต้องการทำงานร่วมกับทีมของคุณ หรือคนทำงานอดิเรกที่ต้องการ Deploy Utility Services เล็ก ๆ น้อย ๆ ของคุณเอง

3. GitLab

GitLab เป็น Open Source Code Repository และ Collaborative Software Development Platform สำหรับ DevOps และ DevSecOps Projects มันจะช่วยให้คุณรวม DevOps Lifecycle ทั้งหมดไว้ใน Application เดียว แทนที่จะใช้แยกกัน ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้อย่างมาก

บางครั้ง GitLab ก็ถูกเปรียบเทียบกับ GitHub แต่มันก็มีความแตกต่างกันมาก โดย GitHub จะถูกใช้สำหรับ VCS โดยมี Workflow ที่ประกอบด้วย Main Branch และ (โดยทั่วไป) Feature Branches แต่ในทางกลับกัน GitLab จะเน้นไปที่ DevOps และนำเสนอ Model Workflows ที่แตกต่างกันสำหรับ Feature, Production, Development, Environment และ Release Branches

สำหรับ VCS แล้ว GitHub ดูจะเหมาะมากกว่า แต่ถ้าคุณต้องการอะไรที่มากขึ้นไปอีกระดับ GitLab น่าจะเหมาะสมกว่า

4. Espanso

Espanso เป็น Text Expander เช่น Pprogram ที่จะแทนที่ Keywords บางคำที่คุณพิมพ์ด้วยอย่างอื่น ซึ่งมันช่วยประหยัดเวลาได้อย่างมาก โดยหลีกเลี่ยงการพิมพ์ Sentence ยาว ๆ, Links, Code Snippets เป็นต้น นอกจากนี้ Espanso ยังอนุญาตให้คุณ Run Custom Scripts ได้อีกด้วย

Espanso ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับ Developers โดยเฉพาะ แต่พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากมันเพื่อพิมพ์ Code Snippets ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เนื่องจาก Espanso อนุญาตให้ใช้ User Scripts ได้ Developers จึงสามารถ Develop Script ของพวกเขาและใช้งานผ่าน Espanso ได้ ตัวอย่างเช่น คุณได้สร้าง Script ที่อนุญาตให้เรียกใช้ ChatGPT API ใน Application ใดก็ได้ เพื่อแปลข้อความหรือสร้างข้อความเมื่อคุณพิมพ์ :gpt (คุณสามารถอ่านบทความที่เกี่ยวกับ Espanso และ GPT ได้ที่นี่)

5. Storybook

Storybook เป็น Tool สำหรับ UI Development มันเป็น Workshop เล็ก ๆ ที่ทำงานร่วมกับ App ของคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถ Render Components ต่าง ๆ โดยปราศจากการแทรกแซงจาก App Business Logic และ Context สิ่งนี้ช่วยให้คุณทำงานบน Frontend โดยไม่ต้องเปิด Application ทั้งหมดและใส่ Data ลงใน Database ของคุณ

Storybook ทำงานร่วมกับ Frameworks ยอดนิยมอย่าง React และ Vue ได้เป็นอย่างดี แถมยังมี Community ที่แข็งแกร่งมากอีกด้วย 

6. Budibase

Budibase ซึ่งเป็น Open-Source Low-Code Platform ที่รวบรวม Elements ที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการสร้าง Internal Tools และ Business Applications ที่ถูกออกแบบตามความต้องการ

ไม่ว่าคุณจะต้องการ Dashboards, Admin Panels, Approval Apps, Customer Portals เป็นต้น Budibase จะช่วยให้คุณสามารถแปลง Data และ Processes เป็น Internal Tools ที่มีประสิทธิภาพภายในไม่กี่นาที เนื่องจากการเป็น Solution ที่ดีเยี่ยมสำหรับ Open-Source Software Development มันจึงเหมาะสมอย่างยิ่งในการสร้าง User Interfaces, Web Applications และอื่น ๆ

มันเป็น Tool ที่ใช้งานได้ฟรีและเป็น Open-Source อย่างสมบูรณ์ และจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาได้อย่างมาก โดยหลีกเลี่ยงการที่ต้องเขียน Solution ที่เป็นไปได้โดยไม่ต้องใช้ Code

Budibase มี Features มากมายที่จะทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น รวมถึงความสามารถในการ Self-Host Apps ของคุณบน Infrastructure, Automate บาง Processes, Integrate Busibase เข้ากับ Tools ต่าง ๆ มากมาย เช่น Databases เป็นต้น

7. Supabase

Supabase เป็นทางเลือกของ Firebase ที่เป็น Open Source หากคุณไม่รู้จัก Firebase มันเป็น Mobile และ Web Application Development Platform ที่มีความครอบคลุม ซึ่งมี Set ของ Tools และ Services เพื่อช่วยให้ Developers สามารถสร้างและปรับขนาด Apps ที่มีคุณภาพสูง ซึ่ง Supabase ก็เป็นสิ่งเดียวกัน เพียงแต่มันเป็น Open Source

มันประกอบไปด้วย Features มากมาย เช่น Authentication, Storage ใน Database, Instant API, Edge Functions, Subscriptions, Vector Embeddings…

Supabase ยังมี Free Plan ซึ่งก็อาจจะเพียงพอสำหรับ Applications ขนาดเล็ก ดังนั้น หากคุณต้องการขยายขนาด คุณก็สามารถจ่ายเงินเพื่อต้องการ Hosting ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

8. Prisma

Prisma เป็น ORM ซึ่ง ORM ย่อมาจาก Object-Relational Mapping มันเป็นเทคนิคการเขียน Program ที่ช่วยให้คุณสามารถโต้ตอบกับ Relational Databases โดยใช้ Object-Oriented Paradigm มันแตกต่างจาก Relational Databases แบบดั้งเดิมที่ Data ถูกเก็บไว้ใน Tables และการโต้ตอบกับ Database โดยทั่วไปจะทำโดยใช้ SQL (Structured Query Language)

Prisma ประกอบด้วย 3 ส่วน:

  • Prisma Client: Auto-Generated และ Type-Safe Query Builder สำหรับ Node.js & TypeScript
  • Prisma Migrate: Migration System
  • Prisma Studio: GUI เพื่อ View และ Edit Data ใน Database ของคุณ

คุณสามารถใช้ Prisma Client ใน Node.js หรือ TypeScript Backend Application ได้

Prisma จะแทรกแซงระหว่าง Client และ Database ที่ระดับ Server ซึ่งทำให้ง่ายต่อการ Transform Database ของคุณให้เป็น REST API

Prisma ทำงานร่วมกับ Frameworks ต่าง ๆ เช่น NEXT.JS, GraphQL, Express รวมทั้งอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี

ที่มา: https://medium.com/ 

 

 

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

เพิ่มเพื่อน

 

บทความล่าสุด