11 Web APIs Every Senior Web Engineer Should Master

22-Dec-23

คัมภีร์เทพ IT

See the original english version Click here!

 

มี APIs ใน JavaScript หลายตัวที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีประโยชน์และสามารถนำไปใช้งานได้สะดวก และในบทความนี้ด้านล่างนี้จะมาแนะนำ 11 Web APIs ที่ Web Engineer ควรรู้จักและใช้งานให้เป็นเอาไว้ เพื่อช่วยให้คุณสามารถทำงานได้ราบรื่นและครอบคลุมมากขึ้น

1. Blob API

Blob API ถูกใช้ในการประมวลผล Binary Data และสามารถ Read Data และ Convert Data จาก Blob Objects ได้อย่างง่ายดาย

สถานการณ์การใช้งาน: ใน Web Applications คุณอาจจำเป็นต้อง Uploaded หรือ Download ตัว Binary Files และ Data เหล่านี้ก็สามารถถูกประมวลผลโดยใช้ Blob API ได้อย่างสะดวก

2. WeakSet

WeakSet นั้น มีความคล้ายคลึงกับ Set แต่สามารถจัดเก็บ Objects ที่เป็น Weak Reference ได้ ซึ่งหมายความว่า หากไม่มี References อื่น ที่ชี้ไปที่ Object แล้ว Garbage Collector ก็สามารถเรียกคืน Object ได้โดยที่ไม่ต้องลบออกจาก WeakSet เอง

สถานการณ์การใช้งาน: ในบางกรณี คุณอาจต้องจัดเก็บ Temporary Objects บางตัว แต่คุณก็ไม่ต้องการให้ Objects เหล่านั้นใช้หน่วยความจำมากเกินไป แต่คุณก็สามารถจัดการ Objects เหล่านั้นได้อย่างง่ายดายโดยใช้ WeakSet

3. TextEncoder และ TextDecoder

TextEncoder และ TextDecoder ถูกใช้เพื่อจัดการการ Convert ระหว่าง String และ Byte Sequences มันมีประโยชน์อย่างมากสำหรับการเข้ารหัส String ไปเป็น Byte Sequences หรือถอดรหัส Byte Sequences ไปเป็น String

สถานการณ์การใช้งาน: ใน Web Applications คุณอาจจำเป็นต้อง Convert Strings ไปเป็น Binary Data หรือแปลง Binary Data ไปเป็น Strings ซึ่งการ Convert เหล่านี้ สามารถทำได้สะดวกโดยใช้ TextEncoder และ TextDecoder

4. Proxy API

คุณสามารถใช้ Proxy API เพื่อสร้าง Proxy Objects ซึ่งสามารถยับยั้งการดำเนินการ อย่างเช่น การ Read และการ Assign Object Properties อีกทั้งเรายังสามารถใช้ Function นี้เพื่อ Implement Functions ต่าง ๆ ได้ เช่น Metaprogramming และ Data Hijacking

สถานการณ์การใช้งาน: ในบางกรณี คุณอาจจำเป็นต้องยับยั้งการดำเนินการ เช่น การ Read และการ Assign Object Properties เพื่อให้ได้ Functions ที่มีความ Advance มากขึ้น ซึ่ง Functions เหล่านี้ยังสามารถถูก Implement ได้อย่างง่ายดายโดยใช้ Proxy API

5. Object.entries() และ Object.values()

Object.entries() ถูกใช้เพื่อรับ Array ของ Enumerable Properties และ Values ของ Object ในขณะที่ Object.values() ก็ถูกใช้เพื่อรับ Array ของ Property Values ของ Object

สถานการณ์การใช้งาน: ในบางกรณี คุณอาจต้องการได้รับ Enumerable Properties หรือ Property Values ​​ของ Object ซึ่งคุณสามารถทำสิ่งนั้นได้อย่างง่ายดายโดยใช้ Object.entries() และ Object.values()

6. IntersectionObserver

IntersectionObserver สามารถถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่ามี Element เข้าสู่ Viewport หรือไม่ และสามารถถูกใช้เพื่อ Implement Functions ต่าง ๆ เช่น Infinite Scrolling และ Lazy Loading

สถานการณ์การใช้งาน: ใน Web Applications คุณอาจจำเป็นต้องใช้ Functions ต่าง ๆ เช่น Infinite Scrolling และ Lazy Loading ซึ่งคุณจะสะดวกมากขึ้นหากคุณใช้ IntersectionObserver

7. Symbol

Symbol สามารถถูกใช้เพื่อสร้างตัว Identifiers ที่ไม่ซ้ำกัน และสามารถถูกใช้ในการกำหนด Private Properties หรือ Methods ของ Objects

สถานการณ์การใช้งาน: ในบางกรณี คุณอาจจำเป็นต้องกำหนด Private Properties หรือ Methods ของ Objects ซึ่งคุณสามารถทำสิ่งนั้นได้อย่างง่ายดายโดยใช้ Symbol

8. Reflect API

Reflect API สามารถถูกใช้ในการ Implement Metaprogramming ได้ เช่น การเรียก Methods หรือ Constructors ของ Objects แบบ Dynamic ได้

สถานการณ์การใช้งาน: ในบางกรณี คุณอาจจำเป็นต้องเรียก Methods หรือ Constructors ของ Objects แบบ Dynamic ซึ่งคุณสามารถทำสิ่งนั้นได้อย่างง่ายดายโดยใช้ Reflect API

9. Generator API

คุณสามารถใช้ Generator API เพื่อสร้างตัว Iterators ซึ่งสามารถถูกใช้ในการ Implement Asynchronous Operations หรือ Lazy Calculations

สถานการณ์การใช้งาน: ในบางกรณี คุณอาจจำเป็นต้องทำการ Implement Asynchronous Operations หรือ Lazy Calculations ซึ่งคุณสามารถใช้ Generator API ในการทำสิ่งนั้นได้

10. Web Workers

Web Workers สามารถถูกใช้ในการ Execute JavaScript Code ใน Background Thread ซึ่งสามารถใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพหรือใช้การคำนวณที่มีความซับซ้อน

.

สถานการณ์การใช้งาน: ใน Web Applications คุณอาจจำเป็นต้องประมวลผลในงานที่ต้องใช้การคำนวณจำนวนมากหรือการดำเนินการที่ต้องใช้เวลานาน ๆ คุณสามารถใช้ Web Workers เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพหรือหลีกเลี่ยงการบล็อก User Interface ได้

11. AudioContext

AudioContext สามารถถูกใช้ในการประมวลผล Audio และสามารถถูกใช้เพื่อ Implement Functions ต่าง ๆ เช่น Audio Playback และ Sound Effect Processing

สถานการณ์การใช้งาน: ใน Web Applications คุณอาจจำเป็นต้องใช้ Functions ต่าง ๆ เช่น Audio Playback และ Sound Effect Processing และคุณสามารถทำสิ่งนั้นได้อย่างง่ายดายโดยใช้ AudioContext

ที่มา: https://javascript.plainenglish.io/

 

 

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

เพิ่มเพื่อน

 

บทความล่าสุด