ชีวิตแต่ละวันของ Coder ต้องทำอะไรบ้าง

02-พ.ย.-18

คัมภีร์เทพ IT

สำหรับบทความนี้ เป็นการแชร์ประสบการณ์ของ Coder หลายๆ คนว่า พวกเขาทำอะไรบ้างในแต่ละวัน ความน่าสนใจอยู่ที่ แม้ พวกเขาเป็นคนต่างชาติ น่าจะมีสไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกับคนไทย แต่เชื่อว่ามีหลายเรื่องที่พวกเขาเจอ น่าจะคล้ายกับสิ่งที่คนไอทีไทยต้องเจอ แต่จะเป็นเรื่องอะไรนั้น ลองติดตามได้จากบทความนี้เลย

Wesley Bitomski, Code Poet, and Systems Architect

สำหรับ Wesley แล้ว ทุกๆ เช้าเขาจะใช้เรือลำเล็กๆ ของตัวเอง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิตของเขา ซึ่งมีท่าเรือเล็กๆ ไว้ให้จอดเรือ นั่นหมายถึง เขาต้องใช้เวลาเดินทางไป-กลับ รวม 4 ชั่วโมง/วันซึ่งมันดูเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์  ทั้งที่จริงเขาสามารถใช้เวลาช่วงนั้นใน การทำสิ่งอื่นที่มีประโยชน์ได้มากมาย แต่เขาก็ยังเลือกที่จะใช้วิธีเดินทางนี้ เพราะมันง่ายสำหรับเขา จากนั้นเมื่อถึงออฟฟิตก็พับเรือเก็บ พร้อมนำมอเตอร์เข้ามาเก็บ ทำการชาร์จมอเตอร์ จากนั้นก็ Sign on เข้า Slack และเตรียมพร้อมประชุมในช่วงเช้า

วันนี้ Wesley มี 2 Meeting ที่ต้องเข้าร่วม  Meeting แรก คือ Backlog Grooming Meeting ซึ่งเราจะพูดคุยเกี่ยวกับงานที่ควรจะทำใน Sprints ในอนาคต และอีก Meeting คือ Sprint Planning Meeting ที่คุยเรื่องงานที่จะทำในสัปดาห์นั้น โดยทั่วไปเขามีแนวโน้มที่จะเป็นส่วนหนึ่งของประชุม Scrum สัก 1 - 2 ครั้ง ซึ่งเราจะพูดถึงสิ่งที่เราทำสำเร็จไปในวันก่อนๆ สิ่งที่เราต้องการทำในวันนี้ และสิ่งที่ยังอยู่ในแนวทางการทำงานของกลุ่ม

ที่ออฟฟิตเขาเปรียบเหมือน Agile Shop ดังนั้นเราจึงพยายามมุ่งเน้นกับงานที่มีประโยชน์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สำหรับแต่ละ Sprints จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากคนในทีมส่วนใหญ่จะถูกแบ่งแยกออกจากกันระหว่างหลายๆ ทีม ดังนั้น Sprint อาจทำให้งานสะดุดและทำให้มีการประชุมกันทุกวันจันทร์ หรืออย่างน้อย นั่นคือสิ่งที่ผู้บริหารกำลังพยายามทำ แต่มักเจอคำบ่นของเหล่า Engineer ที่พวกเขาพยายามจะออกจากที่ประชุมและกลับไปแก้ปัญหางานของพวกเขา ไม่ใช่เพราะผู้บริหารกลัวที่จะเสียเงิน แต่เนื่องจาก Engineer มักชอบแก้ปัญหาให้มันถูกต้อง พวกวีดีโอเกม Puzzle ดูจะเป็นสิ่งที่คนในแผนกชื่นชอบ แต่การประชุมดูจะเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ทุกคนรู้สึกเหนื่อยหน่าย ซึ่งทำให้เหล่า Engineer มักไม่ชอบเวลาที่ต้องทำอะไรกับคนจำนวนมากๆ

ในช่วงที่เหลือของวัน Wesley ได้มีการพูดคุย/ถกเถียงถึงข้อดีของการออกแบบ JavaScript กับ Frontend Engineer ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำงานที่ค้างจาก Sprint ครั้งก่อนหน้านี้และทำงานของสัปดาห์นี้ การพูดคุยโต้แย้งกันไปมา ถือเป็นสิ่งที่มักทำกันเสมอ เขาพยายามทำให้ Engineer คนนั้นได้มาทำงานส่วนอื่นบ้างก่อนที่ JavaScript จะทำให้เขา Burnout ไปซะก่อน

หลังเลิกงานทุกวัน Wesley เดินทางกลับด้วยเรือของเขา พอถึงท่าเทียบเรือ ก็ทำความสะอาดก่อนที่จะเก็บเรื่องของเขา แล้วนำมอเตอร์ไปชาร์จ จากนั้นก็เดินไปที่ผับใกล้ๆ เพื่อทานมื้อเย็น พอกลับถึงบ้าน ก็ดูข่าวผ่านทาง Internet Streams ขณะที่ Login เข้าสู่ Slack และรอให้ ”มีไฟในการทำงาน” ก่อนที่จะเริ่มต้นทำอะไรต่อไป

Wesley กำลังคิดว่า เขาควรจะ Chat กับ Sr. Accountant ดีไหม มีหลายสิ่งที่เขาและ Sr. Accountant เห็นพ้องต้องกัน และเขาก็คิดว่าเธอน่ารักดี เธอมักจะออนไลน์เสมอ เขามีความสุขในการพูดคุยกันกับเธอ หรืออย่างน้อยมันก็ทำให้เขามีความสุขเพราะมีผู้หญิงที่สวยและน่ารัก ที่กำลังพูดถึงสิ่งที่เขากำลังสนใจอยู่ด้วย

แต่ Wesley ตัดสินใจที่จะไม่ทำให้เธอรู้สึกรำคาญ เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ อาจจะเพราะเป็นคนขี้ขลาดในเรื่องนี้ เขามักจะกลัวสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ เขารีบเข้านอน เพื่อจะได้ตื่นให้ทันเดินทางใน 7 โมง และจะได้ไม่รู้สึกเหมือนเป็น Zombie ในตอนเช้า

Wesley ใช้เวลากับ Code ไป 1/4 ของวัน เวลาที่เหลือก็ใช้ไปกับเรื่องที่ว่าจะเขียน Code อะไร เทคโนโลยีไหนดี, ใช้เวลาอยู่ในเรือ และดูข่าว รวมทั้งต้องกลั้นใจใจตัวเองที่จะไม่พูดกับผู้หญิงที่เขาชื่นชมเธออย่างออกนอกหน้า นี่แหละคือ ชีวิตประจำของเขา

Edmund Elmer, coder

Edmund คิดว่า การ Coding ถือเป็นงานที่สร้างสรรค์ ดังนั้นงานส่วนใหญ่จึงเกี่ยวกับ การคิดและการอ่าน, การเรียนรู้สิ่งต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการสร้างสิ่งใหม่ๆ หรือต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เขาคิดว่า 30% ของงานคือ "การนั่งหน้าคอมพิวเตอร์และเขียน Code" ส่วนอีก 70% น่าจะเกี่ยวกับเรื่องการอ่าน, การเรียนรู้ และที่สำคัญที่สุดก็คือ การคิด

แน่นอนที่สุดว่า การอ่านและการคิด เมื่ออยู่ในที่ทำงาน จะเกิดขึ้นตอนคุณนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ แต่เขาก็ยกตัวอย่างว่า เมื่อเขาทำงานแบบ Remote และเมื่อเขามีปัญหาที่ยากจริงๆ และต้องการหา Solution เขาจะเดินจูงสุนัขเข้าไปในสวน และใช้ความคิดเกี่ยวกับ threads หรือ การจัดการกับ UI ที่มีความซับซ้อน ดังนั้น สำหรับเขาแล้ว "การนั่งหน้าจอแล้วเขียน Code อยู่ทุกวัน" อาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไปในสถานการณ์จริง

Maxim Andreev, studied at University of Western Ontario

Maxim จบปริญญาตรีด้าน Finance และทำงานที่ Bay Street ประมาณ 5 ปีก่อนที่หันมาทำด้าน Web Development เขาเรียนด้วยตัวเองและใช้เวลาเรียนรู้วิธีการเขียน Code โดยใช้เวลามากกว่าศึกษาด้าน Finance เสียอีก ตอนนี้เขาเป็น Freelancer มาแล้วประมาณ 1 ปี แต่ก็เขียน Program มานานแล้ว และเขาก็คิดว่าจะใช้การเขียน Program เพื่อต่อยอดอาชีพด้าน Finance ของเขา ตอนนี้เขาอยู่ที่บาหลี และใช้เวลาของเขาได้อย่างเต็มที่ คุณคงเดาออกใช่ไหมว่า เขาเป็นกลุ่มคนที่ถูกเรียกว่า Digital Nomad นั่นเอง

Maxim ทำงานใน Project ที่อยู่ในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา เขาใช้จำนวนชั่วโมงที่ทำงานเหมือนกับคนอื่นๆ มันไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขาที่จะตื่นตี 4 เพื่อมาคุยกับลูกค้า หรือนอนหลับจนถึงเที่ยงวัน โดยเฉลี่ยแล้วเขาพยายามที่จะทำงาน 6-8 ชั่วโมงต่อวัน แต่บางครั้งอาจมากถึง 12-14 ชั่วโมง หรืออาจไม่มีเลย หลังจากเสร็จสิ้นการทำงานใน Project แต่ละวัน เขาก็ใช้เวลาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งเขาชอบแบบนี้ เขาคิดว่า ทำงานก็เหมือนไม่ได้ทำงาน เป็นเหมือนเล่นสนุกมากกว่า และใน Internet มีบทความที่ดีมากมายแทบทุกอย่างที่คุณต้องการจะเรียนรู้

Maxim รักชีวิตที่เป็นอยู่ตอนนี้มาก เขาไปยิมทุกวัน พยายามเล่น Surf เท่าที่จะสามารถทำได้ และบินไปต่างประเทศ โดยอินโดนีเซียเป็นประเทศที่ 7 ที่ได้ไปในช่วงปีนี้ และวางแผนว่าจะเดินทางไปฮ่องกงในเดือนหน้าด้วย

แม้ชีวิตตอนนี้ของเขาจะดีมาก แต่บางครั้งก็รู้สึกเครียด เพราะการเป็น Freelancer นั้น คุณจะต้องรู้ว่าคุณเก่งอะไรและเก่งในการแก้ไขปัญหาด้วย เขาจะเครียดมากหากเจอลูกค้าที่ขอให้ทำในสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่คุณก็ต้องทำมันให้ได้ เขาโชคดีที่มีแฟนที่ให้การ Support เป็นอย่างดี คอยช่วยกระตุ้นให้เขา Coding แม้จะเจอกับความวิตกกังวลอยู่ Maxim ก็เป็นหนึ่งในคนที่ไม่สามารถหยุดคิดเกี่ยวกับปัญหาต่างได้ จนกว่ามันจะได้รับการแก้ไข ดังนั้น จึงดูเป็นเรื่องยากที่จะหยุดคิดถึงมัน

เครื่องมือหลักๆ ที่ Maxim ต้องใช้ในการทำงานตลอดเวลา มีดังนี้:

  • Angular2 (แต่ตอนนี้หันไปใช้ Vue.js แล้ว)
  • Django + DRF
  • PSQL
  • Ubuntu
  • Nginx
  • Pycharm & Webstorm
  • 13″ MacBook Pro

และแน่นอนว่าต้องมี Python, Aass, JS, Typescript, Git, Bash และอื่นๆ

เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต Maxim กำลังทำงานเกี่ยวกับ ML และเรียนหลักสูตรออนไลน์ฟรีอีกด้วย

Roger Tan, Over-glorified code monkey

Roger ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไร แต่สำหรับเขาแล้ว สิ่งที่ทำแต่ละวันมีดังนี้:

วันทำงาน

7.30 น. – เดินทาง และเตรียมพร้อม แซนด์วิช 3 ชิ้นและมะเขือเทศ 2 ลูก ไปด้วย

8.30 น. – ถึงที่ทำงาน ทานมือเช้าจากอาหารที่เตรียมมากับกาแฟ เปิดอ่านเว็บไซต์ Medium และ Email

9.00 น. – ทำงานที่ได้รับมอบหมาย ติดตามผล เขาอาจส่ง Code จาก Account ส่วนตัวมาที่ Email ที่บริษัท เพื่อดูว่าจะสามารถใช้กับสิ่งที่กำลังทำอยู่ได้หรือไม่

12.00 น. – ทานมื้อเที่ยง และคุยกับ Manager เรื่องงานหรือเทคโนโลยี

13.00 น. – ดื่มกาแฟ และอ่าน Medium

13.30 น. – ทำงานต่อ ถ้าเขาเขียนสิ่งที่อาจเป็นประโยชน์ ก็จะให้ส่งไปยัง Account ส่วนตัวของเขา ถ้าเขาเจอสิ่งที่น่าสนใจบน Web ที่เขาควรหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บ้าน ก็จะให้ส่ง Link ไปยัง Account ส่วนตัว ถ้าเขาต้องการหยุดพักให้เปิด QBASIC ขึ้นและเล่นมันไปสักพัก

18.00 น. – ทานแซนด์วิชชิ้นสุดท้ายกับมะเขือเทศที่เหลืออยู่ (หรือไม่ก็กลับไปทานมือเย็นกับแม่ของเขาหากเขาทานอาหารที่เตรียมไปหมดตั้งแต่ตอนเที่ยงแล้ว)

18.30 น. – ส่ง Email แล้วออกจากออฟฟิต จากนั้นเขาก็มี 4 ทางเลือกว่าจะทำอะไรต่อ:

  • ไปทานมื้อเย็นกับแม่ และหากเป็นสิ้นเดือนก็จะนำเงินเดือนไปให้คุณแม่
  • ว่ายน้ำ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อเป็นการคลายเครียด
  • ไป Shopping ในร้านขายของชำ (เขาทำ Android  App สำหรับสิ่งนี้ ดังนั้น เขาจึงควรไป)
  • เข้า Class ซึ่งตอนนี้กำลังเข้าคอร์ส Java/Android

21.30 น. – เตรียมอาหารสำหรับวันพรุ่งนี้คือ แซนด์วิช และมะเขือเทศ

22.00 น. – ซักผ้า/รีดผ้า(ถ้ามี), ทำ Side Project, หากมี Code ที่ส่งมา ก็ดูว่าสามารถใช้งานได้หรือไม่ ถ้าเขียนสิ่งที่คิดว่าน่าจะใช้งานได้อีก ก็จะส่งไปที่ Account ของที่ทำงาน Follow up ข้อมูลที่ส่งไปยัง Account ส่วนตัวในระหว่างวัน, ดูว่ามันมีประโยชน์และคิดว่าน่าจะนำไปใช้งานได้หรือไม่โดยใช้เครื่องมือที่รู้จักอยู่แล้ว ถ้าเป็น Code ใหม่ก็ศึกษาเพิ่มเติม, ดู HK Drama บางเรื่อง, กินแอปเปิ้ล

01.00 น. – เข้านอน

วันหยุด

09.00 น. – ดื่มกาแฟ ที่ร้านกาแฟใกล้บ้าน เข้าไปอ่านเว้บไซต์ Quora บ้าง

10.00 น. – ว่ายน้ำ

12.00 น. – รับประทานมือเที่ยงกับแม่หรือทำแซนด์วิช

13.00 น. – ทำงานบ้าน (ทำ Android ที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย)

14.00 น. – ทำ Side Project ต่อ, หากทำอะไรเสร็จไปแล้ว ก็จะเขียน Web Tutorial ว่าสามารถทำสำเร็จได้อย่างไร อธิบาย Code ที่เขียน และโพสต์มันใน Blog (มันยากกว่าที่คิดไว้) หากมีการบ้านจาก Class เรียนก็ต้องทำการบ้าน

18.00 น. – ทำแซนด์วิชและกลับไปทำงานที่ค้างอยู่ จากนั้นออกไปทานมื้อเย็น, ดูหนัง หรือถ้าหากต้องการทำอะไรอย่างอื่นก็เช่น อ่านนวนิยาย ไปห้องสมุด หรือต่อหุ่นยนต์พลาสติกขนาดเล็ก

02.00 น. – เข้านอน

และนี่อาจเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไม Roger ถึงยังไม่มีแฟน ทั้งที่เขาก็มีรูปลักษณ์ที่ดี รายได้ดี และไม่มีใครในแผนกที่ไม่ชอบเขา ไม่มีผู้หญิงคนไหนชื่นชอบกับการถูกแย่งเวลาช่วงวันหยุดจากที่แฟนของคุณใช้เวลากับ PHP/JAVA/AJAX หรอก

ที่มา:  https://medium.com/

 

 

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

เพิ่มเพื่อน

 

บทความที่เกี่ยวข้อง