บทความ IT เจ๋งๆ

บทความนี้เป็นบทความของ Quora อีกหนึ่งบทความที่มีประโยชน์กับคนที่กำลังเริ่มเรียนรู้ด้านการ Coding หรือ คนที่กำลังจะเริ่มทำงานด้านนี้ ว่าหลังจากคุณจะสำเร็จการเรียน Coding แล้วคุณจะเดินไปในเส้นทางอาชีพสายใดได้บ้าง ซึ่งคุณ Avi Flombaum(Co-founder และ Dean ที่ Flatiron School) ได้มีคำแนะนำดีๆ ไว้ให้ดังนี้แล้วครับ
 

ประเภทงานใดที่คุณสามารถคาดหวังว่าจะได้ทันที หลังจากเข้าร่วม Coding Bootcamp?

งานแรกของคุณหลังจากที่ผ่านหลักสูตร Bootcamp แล้ว ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นด้วย Junior Developer อย่าง Coding Bootcamps ของที่ Flatiron School เอง ถึงแม้จะมีการป้อนความรู้มากมายให้ผู้เรียนในระยะเวลา 12-15 สัปดาห์ของหลักสูตรก็ตาม แต่แผนการเรียนทั้งหมดก็ยังคงติดตรงเรื่องเงื่อนไขของระยะเวลา ที่ดูจะสั้นเกินไปที่จะเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ หรือก้าวเข้าสู่อาชีพใหม่ๆ ได้
 

งานด้าน Programming ประเภทไหนบ้าง ที่คุณจะสามารถย่อยอดไปได้ หลังจากเข้าร่วม Coding Bootcamp?

มักจะพบว่า มีความเข้าใจแบบผิดๆ เกี่ยวกับ Coding Bootcamps คือ มักจะสอนเฉพาะ technical skill เท่านั้น อย่างเช่น เรียน Ruby ก็จะกลายเป็น Ruby Developer, เรียนรู้ JavaScript ก็จะกลายเป็น JS Developer อันที่จริงโรงเรียนไม่มีเวลามากพอที่จะสอนคุณในทุกๆ เรื่องและการโฟกัสไปที่ภาษาเดียวมากเกินไปซึ่งมันจะกลายเป็นการจำกัดความรู้ผู้เรียนไปสักหน่อย ดังนั้น ที่ Flatiron จึงมีเป้าหมายที่แตกต่างไปเพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถพบ “วิธีที่จะเรียนรู้” หากนักเรียนทำมันได้ พวกเขาก็สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากการทำงานได้ รวมทั้งสามารถเพิ่มทักษะและภาษาใหม่ๆ ที่โรงเรียนไม่ได้สอนและปรับเปลี่ยนเส้นทางอาชีพไปตามความสนใจของแต่ละคน และนี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเส้นทางอาชีพของคนที่จบจาก Coding Bootcamp สามารถทำได้หลังจากผ่านงานด้าน Programming มาแล้ว:

• ด้าน Engineering management (Team Lead, Engineering Manager, Director of Engineering, VP of Engineering, CTO): นี่ถือเป็นสายอาชีพที่พอจะรู้กันได้ว่าเป็นของงานด้าน Software Engineering โดยคุณสามารถเติบโตไปทำด้าน Engineering Management ซึ่งสามารถส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อ Product Functionality มากกว่าการที่คุณเป็น Programmer แต่สิ่งที่น่าจะรู้ไว้คือ งานด้านนี้อาจทำให้คุณ Code น้อยลง เพราะคุณต้องบริหารจัดการ Engineer คนอื่นๆ อย่างที่ Steven Brooks (ศิษย์เก่าคนหนึ่งซึ่งเป็น Engineering Manager ที่ StreetEasy) ได้บอกไว้ว่า คุณต้องทำให้แน่ใจว่า วิศวกรของคุณ “มีเครื่องมือที่จำเป็นเพื่อให้พวกเขาทำงานได้สำเร็จ”
• ด้าน Product management: นี่คือสายงานสำหรับ Programmer ที่อยากทำงานเกี่ยวกับการสร้าง/พัฒนา Product และแทนที่จะโฟกัสไปที่เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว Product Managers จะมุ่งเน้นในประเด็นที่สำคัญและในภาพที่กว้างกว่า เช่น ทำไมลูกค้าถึงถึงควรใช้สินค้าเรา? เราจะลดขั้นตอนการลงทะเบียนสำหรับผู้ที่เริ่มใช้งานผ่านโทรศัพท์ได้อย่างไร?  ซึ่งนี่ก็เป็นวิธีที่จะใช้ประโยชน์จากความเข้าใจด้าน Technical และการทำงานร่วมกับ Engineer ได้ ขณะเดียวกันก็ยังให้ความสำคัญกับ Features ที่ควรสร้าง/พัฒนาก่อน สำหรับศิษย์เก่าคนหนึ่งชื่อ Sam Owens ก็สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีได้ เพราะ เข้าเริ่มจาก Programmer แต่ตอนนี้เขาได้เป็นถึง Senior Director of Product ที่ BounceX แล้ว
• ด้าน Entrepreneurship: มีศิษย์เก่าบางคนที่เริ่มสร้างกิจการและมี Product เป็นของตนเอง อย่าง Samantha Radocchia (เปิดบริษัท Chronicled) และ Alex Au (เปิดธุรกิจ Startup ที่ 2) และ ประโยชน์ที่ได้จากการที่มีความสามารถในการ Coding ก็คือ คุณสามารถสร้าง Product เป็นของตนเองได้ จากสิ่งที่คุณถนัด จากสิ่งที่ทำได้ หรือจากความรู้ที่มี

การเรียนรู้ตลอดชีวิตไม่เพียงแค่ การขยายหรือเพิ่มทางเลือกในงานของคุณเท่านั้น จงอย่าลืมว่า เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ภาษา Programming และเครื่องมือต่างๆ ก็มีมากขึ้น และพัฒนาไปเรื่อยๆ (ในที่สุดก็ถูกภาษาใหม่ทดแทน) Developer ที่ดีที่สุด คือคนที่มีความสุขและหลงใหลกบัสิ่งเหล่านี้ และหิวกระหายที่จะเรียนรู้เพื่อให้ทันสิ่งใหม่ๆ และผลด้านดีที่ได้รับก็คือ พวกเขาสามารถเป็น Programmer ในแบบที่พวกเขาต้องการได้

ที่มา: hackernoon.com

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ
 

บทความที่เกี่ยวข้อง

• IT&Digital Events in November 2017

• เรียนรู้ Short-Circuit ‘&&’ Conditional ใน 3 นาที

• ทำอย่างไรดี เมื่อโปรแกรมเมอร์บอกว่า “ทำไม่ได้”