บทความ IT เจ๋งๆ

Xcode11 มีชุดเครื่องมือที่สามารถช่วย Optimize GitHub Flow ของคุณ สำหรับคนที่สนใจหรือเพิ่งเริ่มใช้งาน Xcode11 ในบทความนี้จะมาบอกคุณเกี่ยวกับ วิธีใช้งาน Github กับ Xcode11

การตั้งค่า repo ใหม่ด้วย Xcode นั้นไม่ยากอย่างที่คิด แต่ก่อนจะเริ่มใช้งาน เราต้องทำตามขั้นตอนเบื้องต้นเพื่อให้แน่ใจว่า Github ได้รับการ Configure ค่าอย่างถูกต้องในเครื่อง Mac (หากคุณใช้ Xcode เชื่อว่า คุณน่าจะใช้เครื่อง Mac) ซึ่งมี 3 ขั้นตอนคือ

ขั้นตอนแรก: เริ่มด้วยการเปิด Terminal โดยกดปุ่ม "command + space" เพื่อให้แสดงในส่วนของ Spotlight Search จากนั้นให้พิมพ์  "terminal" แล้วกด Enter ซึ่งจะทำให้ Terminal ปรากฏขึ้นมา

ขั้นตอนที่ 2: สำหรับใน Terminal เรามาเริ่มต้น Setup User name และ Email ของ Github กันก่อน โดยใช้คำสั่ง “git config” เพื่อตรวจสอบและ Set Credentials ของคุณ (หมายเหตุ: Email นี้จะเชื่อมโยงกับ Commits ของคุณ)

ขั้นตอนที่ 3: เราต้องเข้าสู่ Github Account ของเราจาก Xcode ซึ่งเราจะเปิด Xcode โดยใช้ Spotlight Search และเมื่อคุณอยู่ใน Xcode แล้ว ให้กดปุ่ม “command + ,” ซึ่งตอนนี้คุณควรเห็น Preference Window แล้ว ให้คุณไปที่ “Accounts” แล้ว Log in เข้าสู่ Github Account ของเราจาก Xcode ด้วยการกดเครื่องหมาย “+” ที่มุมล่างซ้าย หลังจากที่คุณเลือก Github และกด Confirm แล้วคุณจะสามารถเพิ่ม Username และ Password ของ Github ได้

สร้าง Repository บน Github ด้วย Xcode

ก่อนอื่นเราจะสร้าง Github Repository โดยตรงจาก Xcode ต่อมาเราจะเรียนรู้วิธีเพิ่ม Remote ใน Xcode Project ของคุณ หลังจากสร้าง Repository บน Github แล้ว

เมื่อคุณสร้าง Xcode Project เป็นครั้งแรก คุณสามารถสร้าง Git Repository บน Mac ของคุณ แต่ในขั้นตอนนี้ จะสามารถทำได้หลังจากที่สร้าง Project โดยคุณสามารถไปที่ Bar Items และไปที่ “Source Control” จากนั้นคลิกที่ “Create Git Repositories…” คุณจะเห็นได้ว่า จากตรงนี้เรายังสามารถ Commit, Push, Pull และ Discard การเปลี่ยนแปลงทั้งหมด ได้อีกด้วย

ตอนนี้เราสามารถกด “command + 2” ซึ่งจะแสดง Source Control Navigator ขึ้นมา ให้คุณเปิด Folder Structure แล้วคุณจะพบ Folders อยู่จำนวนหนึ่ง สิ่งที่เรากำลังมองหาก็คือ Remotes ให้คุณกด Control พร้อมกับคลิกที่ Folder แล้วคลิกที่ Create “<Your Project>” Remote…

จากนั้น Window ใหม่จะปรากฏขึ้น ซึ่งจะทำให้คุณสามารถตั้ง ชื่อและ Description ของ Repository รวมทั้งช่วยให้คุณสร้าง Repository Public หรือ Private ได้ หลังจากที่กด Create แล้ว คุณสามารถเปิด Github.com ซึ่งคุณจะสามารถค้นหา Repository ที่สร้างขึ้นใหม่ภายใต้ Repositories ได้

เพิ่ม Existing Remote

คุณจะสามารถทำสิ่งนี้ได้หลังจากสร้าง Github Repository แล้ว สิ่งที่คุณต้องมีก็คือ การเพิ่ม Existing Remote

ใน Source Control Navigator ให้คุณกด Control พร้อมกับคลิกที่ Remotes, จากนั้นคลิกที่ Add Existing Remote จากนั้น Window จะปรากฏขึ้นเพื่อให้คุณสามารถเพิ่ม ชื่อและ Location ของ Remote ได้ หรือคุณจะไม่ตั้งชื่อให้พวกมันก็ได้ แต่คุณจำเป็นต้องตั้งค่า Location ลงใน Git Remote ของคุณ ที่สำคัญคือ อย่าลืมตรวจสอบให้แน่ใจว่าใน Location ของคุณต้องมี .git อยู่ในนั้นด้วย

ตอนนี้ถ้าคุณคลิกที่ปุ่ม “Clone or Download” คุณจะสามารถค้นหา Project ด้วยปุ่ม “Open in Xcode”

สร้าง Branch ด้วย Xcode

เราสามารถสร้าง Branch จากภายใน Source Control Navigator ได้

คุณสามารถไปที่นี่ได้ด้วยการกด “command + 2” ขั้นแรกให้กด Control พร้อมกับคลิก Branch ที่คุณต้องการสร้าง Branch ต่อจากมัน ตอนนี้คุณจะเห็น Window ที่คุณจะสามารถตั้งชื่อของ Branch นั้น จากนั้น Branch ใหม่จะปรากฏขึ้นใน Folder ที่ชื่อว่า Branches

คุณสามารถ Checkout จาก Branch ได้อย่างง่ายดาย ด้วยการกด Control พร้อมกับคลิกที่ Branch และกดที่ Checkout ซึ่งจะทำให้คุณออกจาก Branch ที่คุณอยู่

Commit ไปยัง Github ด้วย Xcode

Shortcut ในการ Commit ใน Xcode ก็คือ “option + command + c” ซึ่งวิธีนี้นี่จะเป็นการเปิด Window ที่คุณจะเห็นได้ตามด้านล่าง

Tool ที่ใช้จัดทำ Document การ Commit ของคุณตัวนี้จะแสดง 3 สิ่งสำคัญต่อไปนี้ ประการแรกคือ คุณสามารถเห็น Files ที่เปลี่ยนแปลงทั้งหมดใน Navigator ซึ่งจากที่นี่คุณสามารถเลือก File ที่คุณต้องการจะ Commit ได้ ประการที่ 2 คุณสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ File นั้น ประการที่ 3 ที่มุมด้านซ้ายล่าง คุณจะเห็น Option คือ Push to remote ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถ Push การเปลี่ยนแปลงไปยัง Branch ที่คุณต้องการได้

ที่มา:  https://medium.com/

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

บทความล่าสุด

• 13 Browser Extensions ที่ Web Developers ควรเรียนรู้ไว้ 
• 10 React Developer Tools ที่ช่วยคุณพัฒนา React Apps ได้เร็วยิ่งขึ้น
• IT & Digital Events in March 2020