7 Tools ที่ Developer ควรใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

06-พ.ย.-20

คัมภีร์เทพ IT

คงมี Developers บางคนเริ่มรู้สึกกังวลใจกับการพัฒนา Applications เนื่องจากปัจจุบัน Application เริ่มมีความซับซ้อนและมี Tech Stack ที่มากขึ้น แต่ก็มี Online Tools อยู่มากมายที่ช่วยในการพัฒนา Application ของเรา และนี่ก็คือ 7 Tools ที่ Developer ควรใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

1. Responsively App

หากคุณถาม Full-Stack Developer ว่าการพัฒนา Front-end ยากกว่าการพัฒนา Back-end หรือไม่ เชื่อว่าส่วนใหญ่มักจะตอบว่าใช่ สาเหตุที่การพัฒนา Front-end ยากกว่าเมื่อเทียบกับการพัฒนา Back-end ก็เพราะ มันเกี่ยวข้องกับ UI Components ที่ซับซ้อนเป็นจำนวนมาก

การสร้าง User Interface ที่ถูกสร้างโดย Designer ขึ้นมาใหม่ถือเป็นเรื่องท้าทาย แต่ยิ่งไปกว่านั้นด้วย Devices และขนาดของ Screen ที่มีอยู่มากมาย Developers ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า Application ของพวกเขา Responsive ได้ดีด้วย

Browsers สมัยใหม่อย่าง Chrome มี Inbuilt Dev Tools ที่ช่วยให้ Browser Window ของคุณสามารถ Responsive เพื่อรองรับแต่ละ Device และ Screen แต่ละขนาด แต่ปัญหาทั่วไปอย่างหนึ่งที่คุณต้องเจอก็คือ คุณสามารถทำงานกับ Device / ขนาด Screen ได้ครั้งละหนึ่งเครื่องเท่านั้น

Responsively App ช่วยให้คุณดูตัวอย่าง Website ของคุณสำหรับ Device และขนาด Screen ที่ต้องการทั้งหมดภายใน Window เดียว นอกจากนี้การ Interactions ก็ทำได้เหมือน ๆ กัน ซึ่งหมายความว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบน Screen หนึ่งจะถูกสะท้อนไปยัง Screen อื่น ๆ ด้วย ตั้งแต่ Screenshots ไปจนถึง Layouts ที่ Customize ได้ ไปจนถึง Element Inspectors ซึ่ง Responsively มีแทบทุกอย่าง อีกทั้งมันยังมาพร้อมกับการรองรับการ Reload อีกด้วย

Tool นี้มีประโยชน์อย่างมากเมื่อคุณต้องพัฒนา Website

2. BIT

หลักการพื้นฐานประการหนึ่งของการ Develop Software ก็คือ การ Reuse Code สิ่งนี้ช่วยให้คุณสามารถลดปริมาณการพัฒนา Software ของคุณได้ เนื่องจากคุณไม่จำเป็นต้องสร้าง Components ตั้งแต่ต้น

นี่คือสิ่งที่ Bit.dev ทำ มันช่วยให้คุณสามารถ Share Code Components และ Snippets ที่สามารถ Reuse ได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถลดเวลาและเร่ง Process ในการพัฒนาของคุณ

นอกจากนี้ มันยังอนุญาตให้ใช้ Components ร่วมกันได้ระหว่างในทีม ซึ่งช่วยให้ทีมของคุณทำงานร่วมกับคนอื่น ๆ ได้

Components คือ Design System ของคุณ มาสร้างให้ดีขึ้นด้วยกัน ” - Bit.dev

ตามคำกล่าวของ Bit.dev ที่ยกมา Component Hub นี้ยังเหมาะที่จะใช้เป็น Design System Builder ด้วยการอนุญาตให้ทีมDevelopers และ Designers ของคุณทำงานร่วมกันได้ Bit.dev จึงเป็น Tool ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้าง Design System ตั้งแต่เริ่มต้น

ตอนนี้ Bit.dev รองรับทั้ง React, Vue, Angular, Node และ JavaScript Framework อื่น ๆ ได้แล้ว

3. Wappalyzer

Wappalyzer เป็น Technographic Data Provider ที่ช่วยให้คุณได้ Data ทางด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับ Website แก่คุณ เช่น Content Management system (CMS), Customer Relationship Management (CRM) System, Marketing Tools, Analytics, JavaScript Libraries, UI Frameworks และแม้แต่ Font Libraries ที่ใช้

สิ่งนี้จำเป็นสำหรับคุณในการออกแบบและจัดการ Website ของคุณให้เทียบเท่าหรือมีประสิทธิภาพที่ดีกว่าคู่แข่งของคุณ

4. Npkill

Full-Stack มาก่อน คุณคงจะรู้ว่าขนาด Folder ของ Front-End Project ของคุณนั้นมีขนาดใหญ่มาก ซึ่งสาเหตุหลักมาจาก Node Modules ที่มีอยู่ใน Project Directory ของคุณ Node Modules มักจะถูกมองข้ามได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนาดของพวกมัน เมื่อเวลาผ่านไป พวกมันจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้ขนาด Folder ของ Project ของคุณมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น

Npkill เป็น Command-Line Tool ที่ช่วยให้คุณลบ Folder ของ Node Modules ที่เก่าแล้วและมีขนาดใหญ่ ๆ ได้อย่างง่ายดาย การลบ Node Modules ที่ไม่จำเป็นออกไป จะช่วยทำให้ System ของคุณไม่ยุ่งเหยิง

นอกจากนี้ Tool นี้ยังใช้งานง่ายมาก Modules สามารถถูกลบได้อย่างง่ายดายโดยใช้ Up และ Down Arrows แล้วกดปุ่ม Delete นอกจากนี้ Tool นี้ยังทำงานได้เร็วมาก เนื่องจาก Search Feature ถูก Implement บน Low Level

นี่คือ Tool ที่ Web Developers ควรใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบ JavaScript

5. Workly

Workly เป็น Node Module ที่อนุญาตให้คุณย้าย Standalone Function / Class ไปยัง Worker Thread นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณเปิดเผย Object หรือ Function ใน Worker ไปยัง Thread หลัก นอกจากนี้ ทั้งหมดนี้ยังเป็นแบบ Asynchronous ทำให้มันเหมาะอบ่างยิ่งที่จะใช้คู่กับ Async / Await

Tool นี้จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายที่ต้องการโดยใช้ Code ไม่ถึง 3 บรรทัด หากคุณกำลังทำงานกับ Web Workers ใน Application ของคุณ ก็ขอแนะนำให้คุณลองใช้ Tool นี้ดู

6. Postwoman

Postman เป็น API Client Tool ที่ Developer ใช้งานกันบ่อยมาก แต่มันค่อนข้างช้าหากใช้งานในเครื่องที่ไม่ได้ Config. ค่าไว้อย่างเหมาะสมนั่นเป็นในกรณีของ Electron App สำหรับ Electron App แล้ว เป็นที่ทราบกันดีว่ามันค่อนข้างช้าโดยเฉพาะในเครื่องที่มีข้อจำกัดในเรื่องการ Config. ค่า Hardware แต่ Postwoman ก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกให้กับ Developer ที่ไม่ต้องการใช้ Electron App ซึ่ง Postwoman มี Features ที่ครบถ้วน รวดเร็ว และเป็น Open Source อีกด้วย

คุณสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Tool นี้ได้ด้วยการอ่านบทความนี้: “Postwoman API request builder: An open sourced, free, fast & beautiful alternative to Postman

7. RequestBin

RequestBin ช่วยให้คุณสามารถ Set up HTTP Endpoint ได้อย่างรวดเร็วเพื่อรับ Requests คุณสามารถใช้ Tool นี้เพื่อตีความและทำความเข้าใจ Data ที่ได้รับมา Tool นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อทำงานกับ Webhooks จาก Sources ต่าง ๆ

อย่างในกรณีของคุณ Mahdhi Rezvi ซึ่งเป็นเจ้าของบทความนี้ก็เคยเจอกรณีที่ทำให้เขาต้องหาทางเพื่อหา Format ของ Data ที่ถูกส่งไปยัง API เนื่องจาก Documentation นั้นค่อนข้างล้าสมัยไปหน่อย เขาต้องใช้ Dynamic Data Type ใน C# เพื่อดูว่า Objects ที่ได้รับคืออะไร เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นทั้งหมดนี้ คุณสามารถระบุ HTTP Endpoint ที่ได้รับจาก Tool นี้และได้เห็น Data ที่ได้รับมา

ที่มา:  https://medium.com/

 

 

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

เพิ่มเพื่อน

 

บทความล่าสุด