รวมคำสั่ง Git ที่ Dev มือโปรใช้งานเป็นประจำ และคุณเองก็ใช้ได้เช่นกัน

01-ต.ค.-25

คัมภีร์เทพ IT

ในฐานะของ Developer คุณเคยกลัวไหมว่า แค่การพิมพ์ Git Command ผิดก็อาจทำให้ Project มีปัญหา ความจริงคือ Git ไม่ได้น่ากลัวหากคุณเข้าใจมัน บทความนี้จึงได้ รวมคำสั่ง Git ที่ Dev มือโปรใช้งานเป็นประจำ และคุณเองก็ใช้ได้เช่นกัน

1. ตั้งค่าข้อมูลของคุณ: Git Configuration

ก่อนจะเริ่มใช้งาน Git คุณต้องบอกมันก่อนว่า คุณเป็นใคร:

ทำไมถึงสำคัญ: การตั้งค่านี้ช่วยให้การ Commit ของคุณมีการระบุว่าเป็นของใคร และยังช่วยให้ Git จัดการ Credential ได้อย่างปลอดภัย

2. สร้าง Git Repository ใหม่

เริ่มติดตามการเปลี่ยนแปลงใน Project:

คำสั่งนี้จะสร้างโฟลเดอร์ .git ในเครื่องคุณ และเตรียมทุกอย่างสำหรับ Version Control

3. เลือกไฟล์ที่จะ Track (Staging)

ก่อนที่จะ Commit คุณต้องเลือกก่อนว่าจะบันทึกไฟล์ไหนบ้าง:

ใช้ git add -p เพื่อเลือกบางส่วนของไฟล์มาทำการ Stage ได้ ไม่จำเป็นต้องเลือกทั้งไฟล์ ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้การ Commit ของคุณ มีความชัดเจนและไม่ปนกับการแก้ไขอย่างอื่น

4. ตรวจสอบสถานะไฟล์

ดูสถานะปัจจุบันของ Working Directory:

รู้จักความต่างระหว่าง Staged และ Unstaged Changes จะสามารถช่วยป้องกันการ Commit โดยไม่ตั้งใจได้

5. สร้าง Commit: บันทึกงานของคุณ

ได้เวลาเก็บการเปลี่ยนแปลงของคุณ เข้าสู่ Git History:

คุณสามารถใช้ -a ได้เฉพาะกับไฟล์ที่ถูก Git Track ไว้อยู่แล้วเท่านั้น ไฟล์ใหม่ยังต้องใช้ git add ก่อน

6. ดู Commit History

ทำความเข้าใจกับการพัฒนาของ Project:

--graph จะช่วยให้เห็นโครงสร้าง Branch แบบภาพรวม ซึ่งจะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับการทำงานร่วมกันเป็นทีม

7. ตรวจสอบ Commit ทีละรายการ

ถ้าอยากเจาะดูรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงของ Commit ใด Commit หนึ่ง:

คำสั่งนี้จะแสดงว่า ไฟล์ไหนถูกเปลี่ยน อะไรถูกเพิ่มหรือลบ และใครเป็นคนแก้ไข ซึ่งเหมาะมากเวลาที่คุณอยากหาสาเหตุของ Bug หรือตรวจสอบว่า มีอะไรเปลี่ยนไปใน Commit นั้น ๆ ถือว่ามีประโยชน์ต่อการ Debug อย่างมาก

8. ยกเลิกหรือแก้ไขความผิดพลาด

ถ้าคุณเกิดทำพลาดอะไรขึ้นมา Git มีทางออกให้คุณ:

ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยง git commit --amend หรือ git rebase บน Commit ที่มีการ Push ไปแล้ว

9. การสร้าง Branch และ Merge

การสร้างและทำงานบน Branch จะช่วยให้คุณสามารถทดลองทำสิ่งต่าง ๆ ได้โดยไม่ทำให้ Main Code พัง:

แนวคิดง่าย ๆ: ทำงานบน Branch ก่อน แล้วทำการ Merge กลับเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว

10. เชื่อมต่อกับ Remote Repository

เมื่อต้องทำงานร่วมกับคนอื่น มักจะใช้บริการอย่าง GitHub, GitLab หรือ Bitbucket ซึ่งคุณสามารถเชื่อมต่อ Project ของคุณเข้ากับ Remote เหล่านี้ได้:

อธิบายแบบเข้าใจง่าย:

  • fetch = ดึงการเปลี่ยนแปลงจาก Remote มาเก็บไว้ในเครื่อง แต่ยังไม่รวมเข้ากับ Code ปัจจุบัน
  • pull = ดึงการเปลี่ยนแปลงจาก Remote และรวมเข้ากับ Branch ที่คุณทำงานอยู่ทันที
  • push = ส่ง Code ของคุณขึ้นไปเก็บบน Remote เพื่อให้ทีมเข้าถึงได้

สรุปง่าย ๆ: ถ้าอยากอัปเดต Code จากทีมสามารถใช้ fetch หรือ pull แต่ถ้าอยากแชร์งานของคุณให้ทีมให้ใช้ push

11. ใช้ Rebase เพื่อ Clean History

Rebase เปรียบเหมือนการนำ Commit ของคุณมา ‘เล่นซ้ำ’ บน Branch หลักที่อัปเดตล่าสุด

Rebase จะช่วยให้ Commit History สะอาดและอ่านง่ายขึ้นก่อนที่จะทำการ Merge แต่ข้อควรระวังคือ ไม่ควรใช้ Rebase บน Branch ที่แชร์กับคนอื่น

12. คำสั่งอื่น ๆ เพิ่มเติมที่มีประโยชน์

สามารถใช้คำสั่งเหล่านี้เวลาที่ต้องการซิงค์กับ Remote, ตรวจสอบ Log ของ Remote หรือในบางกรณีที่จำเป็นจริง ๆ อาจต้องใช้ Force Push (ซึ่งควรใช้อย่างระมัดระวัง)

สรุป

และนี่ก็เป็น คำสั่ง Git ที่ Dev มือโปรใช้งานเป็นประจำ และคุณเองก็ใช้ได้เช่นกัน ไม่ว่าคุณจะทำ Project เดี่ยว หรือต้องทำงานร่วมกับคนในทีมหลายสิบคน คำสั่งเหล่านี้ถือเป็น รากฐานของการพัฒนา Software ยุคใหม่ เริ่มจากเล็ก ๆ น้อย ๆ ฝึกใช้งานบ่อย ๆ แล้วอีกไม่นาน คุณจะสามารถใช้งานคำสั่ง Git เหล่านี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติแล้ว

ที่มา: https://medium.com/

 

 

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

เพิ่มเพื่อน

 

บทความล่าสุด