5 Developer Tools ที่ช่วยเพิ่ม Value ให้กับ Software Engineers

25-พ.ค.-21

คัมภีร์เทพ IT

สำหรับ Software Engineers แล้ว งานของพวกเขาคือการแก้ปัญหา หากมี Tools ที่ช่วยทำให้ชีวิตของ Software Engineers หรือ Developers ง่ายขึ้น น่าจะทำให้พวกเขาทำงานอย่างมีความสุขและทำงานได้รวดเร็วมากขึ้น และนี่ก็คือ 5 Developer Tools ที่ช่วยเพิ่ม Value ให้กับ Software Engineers

1. Figma

คุณสามารถใช้ Figma เป็น Design Tool ก่อนหน้านี้ UX Designers และ Frontend Developers ใช้ Adobe Illustrator หรือ Sketch ในการทำงาน ซึ่งคุณสามารถใช้ Figma เป็นอีกทางเลือกเพื่อใช้ทำงานแทนทั้ง 2 Tools ข้างต้น

เมื่อคุณเริ่มใช้ Figma แล้ว มีความเป็นไปได้ว่า คุณจะไม่อยากกลับไปใช้ Adobe Illustrator หรือ Sketch อีกเลย

คุณสามารถใช้ Figma เพื่อสร้าง Prototype ได้อย่างง่ายดาย การสร้าง Prototype นั้นค่อนข้างตรงไปตรงมาใน Figma ด้วยการใช้ Figma จะช่วยทำให้ Developers สามารถถ่ายทอด Message ให้กับ Designers ได้สะดวกและเข้าใจมากขึ้น พวกเขาสามารถรับ Measurements ได้ทั้งหมดด้วยความช่วยเหลือของ Prototype

ทำไมถึงควรใช้ Figma:

  • Figma จะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานเป็นทีม เช่นเดียวกับ Google Focs สมาชิกในทีมทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้ ทุกคนที่แก้ไข Files จะมีชื่อแสดงอยู่ที่ด้านบนของ App ด้วย Figma คุณสามารถหยุดการเปลี่ยนแปลงการออกแบบ ที่อยู่นอกเหนือจากการออกแบบที่ได้ตกลงกันไว้
  • ใน Figma คุณสามารถทำงานกับ Operating System ใดก็ได้ มันสามารถทำงานบน MacBook, Windows, Linux และ Chromebooks แม้ว่าสมาชิกในทีมจะมี Operating System ที่แตกต่างกัน แต่ทีมของคุณก็ยังสามารถใช้ Figma ได้
  • คุณสามารถใช้ Figma เพื่อตรวจสอบการออกแบบได้ เนื่องจากมันช่วยให้คุณสามารถเพิ่ม Comments ได้ สมาชิกในทีมสามารถพูดคุยเกี่ยวกับการออกแบบทั้งหมดที่กำลังออกแบบได้ ใน Figma นั้นสามารถใช้ Slack เพื่อการสื่อสารได้ ตราบใดที่มีการเพิ่ม Comments และมีการแก้ไขบางอย่าง พวกมันก็สามารถส่งต่อไปยังสมาชิกในทีมได้

2. Replit

คุณสามารถใช้ Replit เพื่อเขียน Code ใน Browser ของคุณ นอกจากนี้ Replit ยังสามารถ Integrate เข้ากับ GitHub ได้อีกด้วย และยังรองรับภาษา Programming ต่าง ๆ กว่า 50 ภาษา

ในฐานะของ Developer คุณสามารถใช้ Operating System ใดก็ได้เพื่อทำงานกับ Replit โดยสามารถใช้งานได้ทั้งบน Linux, macOS หรือ Windows

ทำไมถึงควรใช้ Replit:

  • ใน Multiplayer Feature ของ Replit คุณสามารถเขียน Code ร่วมกับผู้อื่นโดยใช้ Browser ของคุณ คุณสามารถเขียน Code, คุณสามารถ Review Code และคุณยังสามารถ Debug Code ได้อีกด้วย คุณสามารถแชร์ Replit Project ที่ทำเสร็จสมบูรณ์แล้ว กับผู้อื่นได้
  • Developer สามารถพูดคุยกับ Developer คนอื่น ๆ และเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถติดต่อ Expert Coders ที่ยินดีช่วยเหลือคุณได้อีกด้วย และ Code ที่คุณเขียนใน Replit Project ก็สามารถถูก Embed ได้ทุกที่
  • นอกจากนี้ ยังมี Forum ที่ครอบคลุมทุกความต้องการในการ Debug ของคุณ Tool นี้สามารถใช้เพื่อช่วยให้คนในทีมเรียนรู้ Concepts ใหม่ ๆ ได้ ด้วยการใช้ Replit คุณสามารถ Assign งานให้กับผู้อื่นได้ คุณสามารถเก็บงานที่ได้รับมอบหมายไว้แบบ Private เพื่อไม่ให้มีการลอกเลียนแบบได้

3. VisBug

VisBug เป็น Web Design Debugging Tool แบบ Open Source โดยมันอยู่ในรูปแบบของ Chrome Extension

ทำไมถึงควรใช้ VisBug:

  • VisBug ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการออกแบบแล้วแสดงไปยัง Website จริงได้ มันมีประโยชน์มาก ไม่ว่าคุณจะสนใจใน Project Management, Quality Control หรือ Development ก็ตาม คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการออกแบบได้โดยไม่ต้องแตะ Code
  • คุณสามารถสร้าง Site ของคุณด้วยความช่วยเหลือของ WordPress, Angular หรือ JQuery ซึ่ง Open Source Tool นี้สามารถช่วยคุณในการสร้าง Website ด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ คุณสามารถลองเล่นกับ Website ได้ด้วยการ  Point และ Click
  • คุณสามารถแก้ไข Page ใดใน State ใดก็ได้ คุณสามารถปรับเปลี่ยน Layout และ Content ใน Environment สุดท้ายจริง ๆ คุณสามารถแทนที่รูปภาพด้วยรูปภาพใดก็ได้ที่คุณต้องการ

4. Postman

ด้วย Postman มันจะช่วยให้ Developer สามารถ Test API ต่าง ๆ ได้ ซึ่ง API (Application Programming Interface) จะช่วยให้ Developers สามารถเข้าถึง Services และ Functions ต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการ Develop

ทำไมถึงควรใช้ Postman:

  • ด้วย Postman คุณจะสามารถส่ง Requests ไปยัง Web Server และคุณจะได้รับ Response แบบ Real Time ได้ Postman API Tests มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับ Developers และ Testers เนื่องจากมันจะช่วย Test Functions
  • Postman มีความคุ้มทุน มันมีทั้ง Free และ Paid Plans ด้วย Free Plan จะช่วยให้ Developer แต่ละคนสามารถ Test API ได้ครอบคลุมความต้องการขั้นพื้นฐานทั้งหมดได้ ซึ่ง Free Plan มีการจำกัดจำนวนของ Features
  • สำหรับ Paid Plans คุณสามารถทำงานในระดับ High-Level ได้ทั้งหมด Paid Plans ของพวกเขาถือว่า ไม่แพงมากนักเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลือกอื่น ๆ ที่มีอยู่ในตลาด

5. 7pace

7pace จะช่วยให้คุณติดตามเวลาในการทำงานของคุณ ในฐานะของ Software Developer คุณสามารถใช้สิ่งนี้เป็น Developer Productivity Tool ได้

ทำไมถึงควรใช้ 7pace:

  • หากคุณทำงานเป็นทีม คุณจำเป็นต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าอย่างเต็มที่ คุณสามารถเริ่มใช้ Tool นี้และมันจะช่วยคุณในการประหยัดเวลาสำหรับสมาชิกในทีมแต่ละคน
  • หากคุณใช้ 7pace เพียงคนเดียว คุณจะพบว่ามีค่าเฉลี่ยเพียง 3 วินาทีในการ Log แต่ละ Task ของคุณ
  • มันจะช่วยคุณในการตัดสินใจโดยอาศัย Data เกี่ยวกับงานของคุณ คุณสามารถติดตามหรือ Log เวลาได้โดยตรงจาก Azure DevOps

ที่มา:  https://betterprogramming.pub/

 

 

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

เพิ่มเพื่อน

 

บทความล่าสุด