My 7 Favorite Software Developer Productivity Tools

08-Jul-20

คัมภีร์เทพ IT

See the original english version Click here!

 

เชื่อว่าในการทำงาน นอกจากเรื่องของประสิทธิภาพแล้ว Productivity ก็เป็นอีก 1 เรื่องที่ Developer ล้วนให้ความสำคัญ ซึ่งในบทความนี้จะมา แนะนำ 7 Productivity Tools สำหรับ Software Developer รวมทั้งมี Tips การใช้งานเล็ก ๆ น้อย ๆ ของบาง Tools อีกด้วย

1. Vimium/Acejump (Keyboard Jumping)

คงมี Developers บางคนที่ชอบใช้งาน Keyboard Shortcut ที่ IDE หรือ OS มีไว้ให้มากกว่าใช้ Mouse แต่หลายครั้งที่ต้องเข้า Website ต่าง ๆ หรือสลับทำงานไป-มาระหว่าง IDE ต่าง ๆ อาจทำให้บางคนต้องกลับมาใช้งาน Mouse อีก แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปเมื่อคุณได้ใช้ Acejump สำหรับ JetBrains IDEs และ Vimium สำหรับ Chrome

Plugins เหล่านี้จะช่วยให้คุณ ข้ามไปที่ส่วนไหนก็ได้บน Screen ไม่ว่าจะคลิกบน Links, Page back & forth, Scroll up & down เป็นต้น ซึ่งจากตัวอย่างด้านล่างนี้ เป็นการเปิด Chrome Browser พร้อมเปิดใช้ Vimium และ Navigate ไปเรื่อย ๆ โดยใช้เพียงแค่ Keyboard

  • กด B เพื่อแสดง Bookmark Index เพื่อช่วยให้ Search ได้ง่ายขึ้น
  • กด F เพื่อแสดงตัวอักษร Label ต่าง ๆ สำหรับ Links ทั้งหมดในหน้านั้น แล้วคุณก็เพียงแค่พิมพ์ตัวอักษรตาม Label ที่ต้องการเพื่อเปิด Link นั้น
  • J และ k สำหรับ Scroll up และ down ตามลำดับ ส่วน H สำหรับการ Back กลับไปก่อนหน้า
  • / สำหรับ Search Text ที่ต้องการ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่นี่)

ในทำนองเดียวกัน AceJump ก็ช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ของ JetBrains IDE ได้อย่างง่ายดาย

กด Ctrl + ; เพื่อไปยังคำที่ต้องการ, ส่วน Shift + Ctrl + ; เพื่อข้ามไปยังจุดสิ้นสุดของบรรทัด

2. AnyDesk สำหรับ Remote Desktop

สำหรับคนที่ทำงานจากที่บ้านหรือนอกสถานที่คงจะชอบ Tools ตัวนี้ แต่หาก Computer ที่คุณใช้ที่บ้านมี Spec และ Environment ที่ต่างกับเครื่องที่ทำงาน อาจทำให้คุณเจอปัญหาในการทำให้ Programming Environment ในแต่ละเครื่องตรงกัน ซึ่งแน่นอนว่าต้องใช้เวลาและเป็นไปได้ยากที่ให้มันเหมือนกัน รวมทั้งปัญหาด้าน Security หรือด้านอื่น ๆ อีกที่ต้องระวัง เมื่อคุณใช้การทำงานแบบ Remote แต่โชคที่คุณมี AnyDesk และ TeamViewer ที่ช่วยให้การ Connect ระหว่างเครื่องที่บ้านกับเครื่องที่ทำงานของคุณ สามารถทำได้ง่ายและสะดวกขึ้น

Tips

  • หากเป็นไปได้ ตั้งค่า Remote Monitor Resolution ให้เหมือนกับที่บ้านของคุณ
  • Setup Security เพื่อช่วยให้คุณสามารถไว้ใจใน Connection จาก AnyDesk Address ของ PC ที่บ้านของคุณ (เช่นWhite Listing) ซึ่งมันช่วยป้องกัน Outside Traffic จากการ Request เพื่อ Remote Access
  • ตั้งค่า AnyDesk ให้ Boot เมื่อเริ่มต้น Remote Machine ของคุณ เพื่อให้คุณยังสามารถ Reboot จากระยะไกลในขณะที่ยังสามารถ Login อยู่
  • กำหนดค่า Bios ของ Remote PC เพื่อให้สามารถสั่งเครื่อง PC ผ่านทางเครือข่าย LAN ได้ (wakeup on LAN)
  • ปิดหน้าจอ Monitor ในที่ทำงาน เพราะมันจะทำให้เพื่อนร่วมงานของคุณตกใจ 

3. Guake (Linux only)

Guake เป็น Dropdown Terminal Manager สำหรับ Linux ที่มีรูปแบบคล้ายกับ Quake ที่สามารถเปิด Terminal หลายเครื่องได้พร้อมกันโดยไม่ต้องใช้พื้นที่บน Screen (Run เป็น Background Task) คุณสามารถใช้ F12 เพื่อเปิด/ปิด (Toggle) ตัว Dropdown และ F11 สำหรับ Full Screen Mode อีกทั้งมันมี Keyboard Shortcuts ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการปรับขนาดของ Window, Tabs และ Transparency รวมถึงการเปิด, การปิด, การเรียงลำดับใหม่ และการเปลี่ยนชื่อของ Tabs อีกด้วย

4. Kinesis Keyboard/Gunnar Optics

สำหรับ Programmer มานานคุณอาจจะเคยรู้สึกปวดตา ซึ่งแก้ไขง่าย ๆ ด้วยการใส่แว่นถนอมสายตา GUNNAR แล้วเรื่องปวดข้อมือล่ะ จะแก้ไขอย่างไรดี นั่นเพราะ Keyboard แบบธรรมดาทั่วไปที่ใช้งานกัน อาจเป็นสาเหตุให้คุณปวดเมื่อยข้อมือ

Programmer มักจะกด Modifier Keys อย่าง Ctrl และ Shift บ่อยครั้งนับร้อยนับพันครั้งต่อสัปดาห์ หากคุณสังเกตดี ๆ ปุ่มเหล่านี้มักจะอยู่ริม ๆ ของ Keyboard และคุณต้องใช้นิ้วก้อยเล็ก ๆ ของคุณในการกดปุ่มเหล่านั้น ซึ่งมันเป็นต้นเหตุของการเกิดการบาดเจ็บซ้ำซากจากงานที่ทำซ้ำ ๆ หรือ Repetitive Stress Injuries (RSI’s)

ความมหัศจรรย์ของ Keyboard ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์มีมากมาย จึงขอแนะนำให้คุณกัดฟันลงทุน $320 เพื่อซื้อ Kinesis Advantage 2 ซึ่งมันช่วยคุณได้

เมื่อคุณเปลี่ยนมาใช้ Keyboard นี้ มันไม่ง่ายเลยที่จะเปลี่ยนรูปแบบการพิมพ์แบบใหม่ แต่มันก็คุ้มค่าที่จะเปลี่ยน มันทั้งมีหลุมเว้า, มี Layout แบบแยกแป้นพิมพ์ออกเป็นส่วน ๆ และมีการเรียงตัวของแป้นตัวอักษรเป็นแนวตรง (Ortholinear Keys) ในขณะที่คุณสามารถใช้นิ้วโป้งในการกดปุ่ม Modifier Keys ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่ต้องเจ็บข้อมืออีกต่อไป

Bonus: Key Layout สามารถ Customize ได้อย่างสมบูรณ์ และมี Numpad ซ่อนอยู่ด้วย อีกทั้งยังมี Dvorak Version หากคุณต้องการใช้แบบนั้น

5. Slack

หากคุณเคยต้องทำงานที่สื่อสาร ส่งงาน หรือต้อง Approve งานกันผ่าน Email คงเจอปัญหาว่า บางครั้งคุณอาจหา Email ที่ต้องการไม่เจอ หรือต้องไล่หา Email เหล่านั้นเป็นเวลานาน ซึ่งทำให้เสียเวลาในการทำงานอื่น ๆ ที่จำเป็นและมีความสำคัญ

อยากให้คุณลองจินตนาการถึง Flow งานเหล่านี้ดู

  • เพื่อนของคุณและคุณ เพิ่งปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับ Idea ใหม่ ๆ และพวกคุณก็ต้องการจะเริ่มทำมัน
  • คุณสร้าง Slack Channel ชื่อ #new idea และใส่สิ่งที่เกี่ยวข้องบางอย่าง (เช่น รูปภาพ, Code อะไรก็ตาม) ลงไป
  • ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา Manager ของคุณต้องการที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมด้วย พวกคุณจึงเพิ่ม Manager ของคุณเข้ามาใน Channel ด้วย ตอนนี้ Manager สามารถเข้าถึงประวัติการสนทนาและ File ทั้งหมด (ไม่ต้องใช้ Email หรือติดตามงาน)
  • มี Plugins ต่าง ๆ  ที่ช่วยทำให้ Channel ของคุณให้ Update กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นประจำวัน เช่น Meetings (Google Calendar plugin), Code Changes/Deployments (Firebase/Gitlab plugin) และอื่น ๆ อีกมากมาย
  • หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว Channel จะถูกจัดเก็บและสามารถค้นหาได้โดยอัตโนมัติ

และที่สำคัญที่สุดคือ /giphy plugin ที่ช่วยให้คุณสามารถสื่อสารกันได้โดยใช้ Memes

6. Unified IDEs

IDE ถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดตัวหนึ่งสำหรับ Productive Developer แต่มันก็มีให้คุณเลือกมากมาย เรามาเข้าประเด็นกันเลย: จะใช้ JetBrains หรือ VSCode ดี พวกมันเหล่านี้เป็น Cross-Language IDEs ที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ จากนั้น Keyboard Shortcuts, Menus, Toolbars และ Quirks อาจมีความเหมือนหรือต่างกันมากบ้างหรือน้อยบ้างระหว่างภาษา

สำหรับ JetBrains แล้ว พวกเขาสามารถใช้กับ Programming Language หลัก ๆ เป็นส่วนใหญ่ และแม้กระทั่ง Database เมื่อคุณได้เรียนรู้สักหนึ่งใน JetBrains IDE แล้ว ประสบการณ์ของ Developer จะสะท้อนผ่าน Product Suite ของพวกเขา ซึ่งรวมไปถึงการ Setting ต่าง ๆ เช่น Theme และ Keyboard Shortcuts

VSCode ยังคงยอดเยี่ยม (และมันฟรี 100%) มันเริ่มต้นในฐานะ Text Editor ที่รวดเร็วทันใจ พร้อมทั้งภาษา และ Framework ที่สนับสนุนผ่าน Plugins มากมาย นอกจากนี้ VSCode ยังสามารถปรับแต่งได้มากมายเหลายอย่าง และเป็นที่ดึงดูดใจสำหรับผู้ที่ชอบลองทำโน่นทำนี่ และชอบ Customize สิ่งต่าง ๆ ใน Editor ของพวกเขา

7. Keyboard Shortcuts และ Curved Monitor เพื่อใช้งานด้วยกัน

แน่นอนว่าอุปกรณ์คู่กายหลัก ๆ ของ Programmer ก็คือ Monitor, Keyboard และ Mouse โดย Monitor ที่น่าสนใจก็คือ LG 34in UltraWide ส่วน Keyboard ก็คือ Kinesis Advantage 2 ที่กล่าวถึงไปแล้วก่อนหน้านี้ สำหรับจอ Monitor ควรต้องมีความโค้ง เนื่องจากมันจะให้มุมมองที่มากเพียงพอที่จะเห็นเนื้อหาเดียวกันใน 2 หน้าจอ

หากต้องการใช้ประโยชน์จากพื้นที่บนหน้าจอ Monitor ที่มีอยู่ ขอแนะนำให้ใช้ Keyboard Shortcuts ซึ่ง Shortcuts ที่มีประโยชน์กับคุณก็เช่น  Window Snapping (Windows key + Arrow) และ Tabbing (Atl + Tab) โดยที่ OS Shortcuts เหล่านี้ยังรวมถึง Tools อื่น ๆ ที่กล่าวถึงไปแล้ว เช่น Guake, Vimium และ JetBrains ซึ่งคุณสามารถดูตัวอย่างการใช้งานโดยไม่ใช่ Mouse ดังที่แสดงด้านล่างนี้:

ที่มา:  https://levelup.gitconnected.com/

 

 

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

เพิ่มเพื่อน

 

บทความล่าสุด