How to become an IT freelancer

02-Jun-17

คัมภีร์เทพ IT

เมื่อพูดถึงงาน “Freelance” หรือ ที่คนทั่วไปมักจะเรียกกันว่า งานเสริม, Job เสริม หรือ บางคนอาจจะเรียกว่า งานฝิ่น ก็มี แต่ไม่ว่าจะเรียกแบบไหน ความหมายโดยรวมคือ งานที่รับทำเป็นครั้งคราว ไม่ต่อเนื่อง ไม่ได้รับเงินเดือนประจำ ส่วนคนที่ทำงานเสริม หรือ “Freelancer” ก็มีหลากหลายอาชีพทั้ง งานขาย การตลาด แต่งานที่โดดเด่นคือ กลุ่มงานไอที ซึ่งงานที่ได้รับความนิยมหลักๆ ถ้าสาย Dev. ก็รับเขียนโปรแกรม, ทำ Mobile App, ทำเว็บไซต์, ส่วนสาย Network ก็รับวางระบบให้ธุรกิจต่างๆ ได้ เช่น ร้านอาหาร Internet Café หรือ สาย Graphic ก็ รับออกแบบโลโก้/ผลิตภัณฑ์/สติ๊กเกอร์ไลน์ เป็นต้น เพราะเป็นงานที่ค่อนข้างเฉพาะทางกว่างานอื่นๆ หนทางสู่การทำงาน Freelance ของคนสายไอทีนั้นไม่ยากเลย ถ้าคุณลองทำตามคำแนะนำเบื้องต้นเหล่านี้

  1. ฝึกเป็นนายตัวเอง
    เมื่อคุณตัดสินใจมารับงานเสริมหรือก้าวเข้าสู่การเป็น Freelancer แล้ว คุณต้องมีฝีมือที่โดดเด่นพอให้คนอื่นเชื่อมั่นในตัวคุณ กล้าจ้างคุณไปทำงานให้เขา ต้องรู้ลึกว่า Scope งานที่รับมาว่าทำได้จริงหรือไม่ เพราะคุณจะต้องรับผิดชอบเองทุกๆ อย่าง ถ้างานมีปัญหาคุณจะต้องแก้ไขปัญหานั้นด้วยตัวเองทั้งหมด ซึ่งมันต่างกับงานประจำตรงที่คุณจะมีหน้าที่ความรับผิดชอบที่ชัดเจนและได้ทำในสิ่งที่คุณรู้หรือมีทักษะ แม้แต่ตอนมีปัญหาก็สอบถามจากหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานได้ทันที ดังนั้น ก่อนจะรับงาน Freelance มาทำ คุณต้องรู้ครอบคลุมงานส่วนที่เกี่ยวข้องซะก่อนและต้องมีรับผิดชอบสูงมากๆ

     
  2. ปล่อยของ
    หนทางการสร้างชื่อให้คุณเป็นที่รู้จักนั้น สมัยนี้ถือว่าไม่ยากเลย หากคุณกำลังทำงานประจำอยู่ ก็ต้องทำผลงานตัวเองให้ดี ให้โดดเด่น ทำให้ลูกค้ารู้จักชื่อ จดจำชื่อคุณให้ได้ และในฐานะที่เป็นคนไอทีในยุคดิจิตอล Website, Blog หรือ Facebook Fan Page เป็นเครื่องมือสำคัญสำคัญที่ให้คุณได้โชว์ผลงาน ปล่อยของ ซึ่งเป็นช่องทางที่ทำให้คนเข้าถึงได้ง่าย สมมติ คุณรับทำ Website แล้วผลงานคุณสวยๆ นะ คนจะยิ่งช่วยแชร์ผลงานของคุณออกไป ทำให้มีโอกาสได้ลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้นแน่นอน

     
  3. รับ Brief แบบมือโปรฯ
    ปัญหาการรับ Brief งานจากลูกค้า คือบางรายไม่สามารถบอกความต้องการที่แท้จริงได้ เรียกง่ายๆ ว่า อธิบายไม่ถูก แต่ถ้าเราเป็นมืออาชีพ เราจะสามารถดึงความต้องการของลูกค้าออกมาจนได้  เช่น ถ้าคุณรับทำเว็บไซต์ ลูกค้าอาจจะแจ้ง Website requirements มาแบบหยาบๆ (เพราะไม่รู้ว่าควรมีอะไรบ้าง) แต่หากคุณมีตัวอย่าง Template/Design ให้ลูกค้าดู สอบถาม Function การใช้งานพื้นฐาน หรือ User Journey ก็ช่วยให้ลูกค้ารู้ความต้องการตัวเองมากขึ้น ยิ่งหากช่วยวางแผนงาน รวมถึงกำหนด Time Line ให้ลูกค้า คุณก็จะดูเป็นมืออาชีพ และขณะเดียวกันคุณก็สามารถประมาณการราคาได้เหมาะสมอีกด้วย

     
  4. สร้าง References
    คนยุคนี้ไม่ค่อยชอบโฆษณา แต่มักเชื่อการ Review หรือบอกต่อจากคนอื่นๆ มากกว่า ยิ่งเป็นการ Review หรือบอกต่อจากเพื่อนหรือคนรู้จักนี่จะชอบและเชื่อใจมาก ดังนั้น หากคุณมี List ลูกค้าที่ใช้บริการของคุณ หรือมี Testimonials เยอะๆ ก็จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้คุณมากขึ้นไปอีก

     
  5. Freelancer Community 
    เมื่อคุณมีฝีมือแล้วก็ต้องเริ่มสร้างผลงานสิ แล้วจะสร้างจากที่ไหนล่ะ? ก็เข้าไปตามแหล่งที่ คน Freelance หางาน หรืองานที่ตามหาคนทำ Freelance สิ มีอยู่หลายแหล่งเลยทั้งที่เป็น Website หรือ Facebook Group ต่างๆ ถึงจะมีอยู่หลายแหล่ง แต่คุณก็ต้องเลือกแหล่งที่น่าเชื่อถือเช่นกัน เพราะมันจะช่วยคัดกรองลูกค้าให้คุณและช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ตัวคุณเอง 

     

สำหรับคนไอทีที่ทำงานประจำอยู่แต่อยากทำงาน Freelance ควบคู่ไปด้วย กฏเหล็กที่สำคัญ คือ ไม่ควรเอา “งานเสริม” มาเบียดเบียน “เวลางานประจำ” หรือใช้ Resource ของบริษัท เพราะไม่งั้น งานหลักก็จะเสียไปด้วย หัวหน้าและเพื่อนร่วมงานที่รู้ก็คงจะไม่พอใจและรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบ แต่หากคุณ Balance ทั้ง 2 สิ่งได้ เชื่อว่าคุณจะไม่ต้องเครียดกับรายได้และมีฝีมือที่เก่งขึ้นแน่นอน
 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

 

เพิ่มเพื่อน

 

 

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง