15 คำสั่ง Git ที่ Developer มือโปรควรใช้ให้เป็น
03-ธ.ค.-25
คัมภีร์เทพ IT
ไม่ว่าคุณจะเป็น Developer มือใหม่หรือมือโปร Git ก็ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้อุ่นใจและปวดหัวได้ในเวลาเดียวกัน ความแตกต่างของ Developer “มือโปร” กับ “มือใหม่” อยู่ที่ความเข้าใจในเครื่องมือที่ใช้งานทุกวันอย่าง Git บทความนี้จึงได้รวบรวม 15 คำสั่ง Git ที่ Developer มือโปรควรใช้ให้เป็น ซึ่งจะช่วยให้คุณทำงานเป็นระบบ แก้ปัญหาได้เร็วขึ้น และลดโอกาสการทำ Project พังโดยไม่จำเป็น
1. git init
แม้จะเป็นคำสั่งพื้นฐานสุด ๆ แต่มันก็เป็นคำสั่งที่สำคัญมาก
คำสั่งนี้เป็นการเริ่มต้นสร้าง Git Repository ใหม่ใน Project ของคุณ ถ้าจะเปรียบเทียบ มันก็เหมือนเป็นการวางรากฐานสำหรับบ้านที่มีระบบ Version Control

Pro tip: อย่าใช้ git init ไปทั่ว เหมือนการโปรยกระดาษสีเล่น แนะนำให้ใช้ 1 Repo สำหรับ 1 Project จะเหมาะสมที่สุด
2. git clone
มันเป็นการนำ Repository ที่มีอยู่แล้ว มาใช้งาน
ให้คิดซะว่า มันก็เหมือนกับเรา Download ซีรีส์เรื่องโปรดจาก Netflix เพียงแต่กรณีนี้มันคือ Code และคุณอาจจะรู้สึกไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่

การใช้งานจริง: อย่าเพิ่ง clone แล้วลุยแก้โค้ดทันที ให้อ่าน README ก่อน ไม่งั้นคุณอาจจะเป็นคนที่ทำ Project พัง
3. git status
มันเป็นการตรวจเช็คสภาพแวดล้อมประจำวันของคุณ
คำสั่งนี้จะบอกให้ทราบว่า มีไฟล์ไหนที่ Staged, Upstaged หรือถูก Ignore อยู่บ้าง Developers ที่ไม่เคยใช้คำสั่งนี้ ก็เหมือนกับ คนขับรถที่ไม่เคยดูกระจกมองข้างหรือกระจกมองหลังเลย

Pro tip: แนะนำให้ Run คำสั่งอย่างสม่ำเสมอ
4. git add
นี่เป็นการย้ายไฟล์เข้าไปใน Staging Area มันก็เหมือนกับคุณกำลังบอก Git ว่า “ใช่ ฉันตั้งใจจะ Commit ความยุ่งเหยิงนี้จริง ๆ นะ”

Pro tip: หลีกเลี่ยงการใช้ git add ตอนที่คุณกำลังตื่นตระหนก เพราะมันจะพา Debug Log หรือไฟล์แปลก ๆ หลุดเข้าไปพร้อมกับการ Commit ได้ง่ายมาก
5. git commit
นี่เป็นเหมือน ของวิเศษของ Git ที่ทุกคนควรใส่ใจ
Commit คือการบันทึกการเปลี่ยนแปลงลงใน History แนะนำให้เขียน Commit Message ให้ชัดเจน ถ้า Commit Message ของคุณคือ “stuff” หรือ “fix” คุณอาจจะเกลียดตัวเองในอนาคต

ข้อแนะนำ: ใช้ Conventional Commits เพื่อให้คนในทีมเข้าใจ, Commit ได้ง่าย และทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
6. git log
ให้คิดซะว่า มันเป็นเครื่อง Time Machine ของ Git
คุณสามารถใช้คำสั่งนี้ เพื่อเปิดดู Commit History แล้วคุณจะได้รู้ว่า ใครเป็นคนทำเรื่องวุ่นวาย

Pro tip: Version เก๋ ๆ ด้านบนนี้ จะทำให้คุณมี Commit Tree ที่สวยงามและอ่านง่าย ขอแนะนำให้ Bookmark ไว้
7. git diff
คุณอยากรู้ว่า มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง ใช่ไหม?
คำสั่งนี้ จะช่วยแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างแบบรายบรรทัด มันเป็นความจริงที่โหดร้ายในหน้าต่าง Terminal

การใช้งานจริง: ถ้า diff ของคุณยาวเหมือนเป็นนวนิยาย แปลว่า คุณควร Commit เสียตั้งแต่เนิ่น ๆ
8. git branch
Branch ก็เปรียบเหมือน จักรวาลคู่ขนานสำหรับ Code ของคุณ ดังนั้น จงใช้มันเถอะ

ข้อแนะนำ: อย่าเป็น Developer ที่ commit ลง main โดยตรง เพราะนั่นคือ ความวุ่นวายและความโกลาหลของแท้
9. git checkout
คำสั่งนี้ใช้เพื่อสลับ Branch หรือ Restore ไฟล์
แต่อย่าสับสนกับ Checkout ของ Supermarket เพราะที่นี่ไม่มีขนมฟรีให้คุณ

Pro tip: ปัจจุบัน Git แนะนำให้ใช้ git switch สำหรับสลับ Branch และ git restore สำหรับ Restore ไฟล์ แต่ยังมีหลายคนยังคงใช้คำสั่ง checkout เหมือนเดิม
10. git merge
มันคือการรวม Branch ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน นี่คือจุดที่เกิดเรื่องดราม่าขึ้น เพราะมักจะเกิด Conflict ขึ้น
แต่อย่าตกใจไป แค่เปิดอ่าน Conflict Markers แล้วแก้ไขให้ถูกซะ แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานของคุณต่อไป

การใช้งานจริง: ถ้าคุณหลีกเลี่ยงการสร้าง Branch เพราะกลัวการ Merge นั่นคือคุณกำลังใช้งาน Git ผิดวัตถุประสงค์
11. git pull
มันเป็นการดึงการเปลี่ยนแปลงใหม่จาก Remote เข้ามา
คำเตือน: ตามค่าเริ่มต้น มันจะ Merge ให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งบางทีก็ทำให้เกิดปัญหาได้

ข้อแนะนำ: ใช้ git pull --rebase เพื่อทำให้ History ไม่ยุ่งเหยิง
12. git push
มันเป็นการส่ง Commit ขึ้นไปที่ Remote นี่คือช่วงเวลาที่เพื่อนร่วมทีมของคุณจะเริ่มตัดสินคุณ

Pro tip: Push เฉพาะหลังจากการ Test เท่านั้น คงไม่มีใครที่อยากเป็นคนทำ Build พัง
13. git stash
คุณเคย มีงานค้างที่ยุ่งเหยิง แต่ต้องเปลี่ยน Branch โดยด่วนบ้างไหม?
เก็บซ่อนมันไว้ใน Stash ก่อนได้ เหมือนเวลาที่คุณรีบโยนเสื้อผ้าเข้าไปในตู้เสื้อผ้า ก่อนที่แขกคนสำคัญจะมาถึง

การใช้งานจริง: อย่าลืมดึง Code จาก Stash กลับคืนมา ไม่งั้นคุณจะงงว่า Code หายไปไหนหมด
14. git reset
คำสั่งนี้ทั้งทรงพลังและอันตรายไปพร้อม ๆ กัน
คำสั่ง reset จะขยับตำแหน่ง HEAD ให้คุณ สามารถใช้เพื่อ Unstage ไฟล์ หรือแม้แต่ลบ Commit ที่ไม่ต้องการ

คำเตือน: --hard เปรียบเหมือนระเบิดนิวเคลียร์ ดังนั้น จงใช้เมื่อคุณแน่ใจแล้วเท่านั้น
15. git reflog
นี่คือ “ฮีโร่” ที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงนัก โดยคำสั่ง Reflog จะบันทึกทุกการเปลี่ยนแปลง แม้แต่ Commit ที่คุณคิดว่าหายไปแล้วก็ตาม มันเปรียบเหมือนตาข่ายนิรภัยของ Git ที่ช่วยป้องกันความผิดพลาดได้

Pro tip: ถ้าคุณเคยตะโกนว่า “งานของฉัน หายไปไหน” ก็ให้ลองใช้ reflog ดู มันช่วยคุณได้มากกว่าที่คิด
สรุป
และนี่ก็เป็น 15 คำสั่ง Git ที่ Developer มือโปรควรใช้ให้เป็น ซึ่งการเข้าใจและใช้ Git ให้คล่อง ไม่ใช่แค่เรื่องทางด้านเทคนิค แต่มันคือการทำงานอย่างมีมีประสิทธิภาพและมีวินัย ช่วงแรกของการใช้งาน Git อาจดูซับซ้อน แต่เมื่อใช้งานบ่อย ๆ และถูกวิธี มันจะกลายเป็นผู้ช่วยชั้นดี ที่ทำให้คุณทำงานแบบมือโปรได้อย่างแท้จริง
ที่มา: https://blog.stackademic.com/
รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert
อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ
บทความล่าสุด

