เตรียมสอบ Java 8 Certification อย่างไรให้ผ่านฉลุย

04-ต.ค.-17

คัมภีร์เทพ IT

        หากคุณมั่นใจว่าทักษะ Java 8 ของคุณอยู่ในระดับที่ดีแล้ว ลองสอบ Certification ดูสิ เพราะ Certification จะเป็นตัวพิสูจน์ได้ถึงสิ่งที่คุณรู้ นอกจากจะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจในทักษะของตัวเองแล้ว ยังจะเพิ่มความมั่นใจให้กับนายจ้างอีกด้วย อย่างตอนสมัครงาน การมีใบรับรองน่าจะทำให้คุณโดดเด่นกว่าคนอื่นๆ หรือหากคุณได้งานแล้ว สิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากการสอบ Certification จะเป็นเครื่องมือที่ดีเพื่อให้คุณทำงานอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น ทีมงาน TechStar ได้สรุปเกี่ยวกับคำแนะนำในการเตรียมสอบ Java 8 Certification มาให้ได้อ่านกันดูครับ

 

จะใช้เวลานานแค่ไหน จนกว่าจะพร้อมสอบ?

        สำหรับเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับว่า คุณมี background มากน้อยแค่ไหน ถ้าความรู้คุณเป็น 0 เลย แนะนำว่าคุณควรฝึกฝนและเรียนรู้อย่างน้อยสัก 6 เดือน ไม่ใช่เรียนรู้จักหนังสือหรือคู่มืออย่างเดียว แต่ควรได้ฝึกทำจริงๆ เพราะต่อให้หนังสือดีแค่ไหนก็คงไม่สู้การได้ลองฝึกปฏิบัติจริงๆ หรือถ้าคุณมีประสบการณ์ในการ Coding Java มาแล้ว ก็ขอแนะนำให้คุณใช้เวลาสัก 2-3 เดือนในการศึกษามันอย่างจริงจัง ตราบเท่าที่คุณพอจะมีเวลาว่าง มีผู้ที่เข้าทดสอบ “OCA Java SE 8 Certification” ประมาณ 30 – 40% ที่สอบไม่ผ่าน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการที่ศึกษามาไม่มากพอ พูดสั้นๆ เลยว่ามันยากกว่าที่คุณคิด

 

แล้วจะทำอย่างไร ถึงจะสอบ Java Certification ผ่าน

  1. วางแผนเส้นทางการสอบ
    ก่อนอื่นคงต้องแน่ใจก่อนว่า Java certification ที่คุณจะสอบควรเป็น Version ล่าสุด คุณจะต้องเริ่มต้นเส้นทางการสอบจาก Java SE 8 Oracle Certified Associate (OCA) Certification ก่อน ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่จะช่วยสร้างและเพิ่มความเข้าใจใน Java มากขึ้น รวมทั้งเพิ่มความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมโดยทั่วไปของคุณอีกด้วย จากนั้นจะเป็น Oracle Certified Professional (OCP) Certification ซึ่งในระดับนี้จะถือว่าคุณมีความสามารถในวิชาชีพขั้นที่สูงขึ้น ต่อไปจะเป็น Oracle Certified Master (OCM) Certification ตามด้วย Oracle Certified Expert จากนี้ถือว่า คุณสามารถเลื่อนระดับไปเป็นผู้เชี่ยวชาญในระดับสูงสุดแล้ว ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยขยับตำแหน่งหน้าที่การงานของคุณไปในระดับที่ดีกว่าและมีเงินเดือนที่สูงขึ้นได้อีกด้วย อันที่จริงก็ยังมีเส้นทางการสอบอื่นๆ ที่คุณสามารถเลือกได้ แต่จากข้างต้น ถือเป็น Certification ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายที่สุดแล้ว

     
  2. ศึกษาจากหนังสือ
    การอ่านถือเป็นสิ่งที่ดีอีกอย่างหนึ่งของการเพิ่มพูนความรู้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการสอบ Java Certification ขอแนะนำให้ลองหาจากใน Amazon (หรือจากแหล่งที่น่าเชื่อถืออื่นๆ ก็ตาม) ดู จะมีหนังสือดีๆ สำหรับผู้ที่ศึกษาเพื่อการสอบ  Certification นี้ และขอย้ำอีกครั้ง! คุณควรแน่ใจว่าคุณเลือกคู่มือ/หนังสือที่อัพเดทใหม่แล้ว

     
  3. กระตือรือร้น
    มีหลายสิ่งเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ใน Java 7 ดังนั้นอย่าคิดคุณรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว และหวังว่า Java 8 ก็คงจะเหมือนๆ กัน คุณกำลังคิดผิด ความรู้ความเชี่ยวชาญที่คุณมีอยู่ ณ ตอนนี้อาจจะกำลังล้าสมัยไปในเวลาไม่นานก็ได้ เช่นเดียวกันหากคุณได้ Certification มาก่อนหน้านี้ ก็โปรดตรวจสอบดูว่า version ใหม่มันมีอะไรอัพเดทจากเดิมบ้าง

     
  4. ฝึกฝน
    คุณคงยังจำสมัยตอนเรียนมัธยมได้ ที่คุณครูของคุณจะมีตัวอย่างข้อสอบเก่าๆ มาให้คุณได้ลองทำก่อนสอบ Final นั่นก็ถือเป็นไอเดียที่ดีที่จะนำมาประยุกต์ใช้ได้กับเรื่องนี้ได้ มีตัวอย่างข้อสอบออนไลน์มากมาย ลองเข้าไปดูที่ MyExamCloud Java CertificationPractice Tests เพราะมันมีแนวข้อสอบและคู่มือสำหรับศึกษามากมายที่คุณสามารถใช้ในการฝึกฝน

     
  5. ซื้อ E-Voucher
    เมื่อคุณแน่ใจแล้วว่าคุณจะสอบ Java Certification คุณก็ลงทะเบียนกับ Oracle Education System แล้วก็เข้าไปสอบได้ แต่ในการเข้าสอบ คุณต้องซื้อ E-Voucher ก่อน เมื่อจ่ายเงินแล้ว คุณมีระยะเวลาภายใน 6 เดือนเพื่อการสอบครั้งนี้ แล้วถ้าเกิดคุณสอบไม่ผ่านขึ้นมา คุณสามารถลงทะเบียนได้ใหม่หลังจากผ่านไปแล้ว 14 วัน

     
  6. วางแผนวันที่จะสอบ
    หากคุณมี E-Voucher แล้ว และใกล้พร้อมที่จะสอบ Java Certification แล้ว คุณอาจอยากรู้ว่าคุณจะสามารถไปสอบได้ที่ไหนบ้าง โดยคุณเข้าไปเช็คข้อมูลได้จากเว็บไซต์ Pearson VUE

     
  7. เข้าสอบและดูผลสอบ
    หลังจากผ่านขั้นการสอบเสร็จแล้ว คุณจะได้รับทราบผลอย่างรวดเร็วทาง E-mail ประมาณ 30 นาทีหลังสอบเสร็จ ซึ่งช่วงนี้หลายคนอาจอยากทราบว่าขั้นตอนจะเป็นอย่างไร โดยหลังจากนี้จะใช้เวลาประมาณสาม 3 – 4 วัน สำหรับขั้นตอนการออก Certification ให้ และจะถูกส่งไปให้คุณผ่านรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ดาวน์โหลดเอาไปใช้งาน

ที่มา: dzone.com


 

อัพเดทงาน Java ก่อนใคร คลิกที่นี่
 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

 

เพิ่มเพื่อน

 

 

 

บทความที่เกี่ยวข้อง