Chrome DevTools, Extensions และเคล็ดลับสำหรับ Web Developers
25-ก.ย.-24
คัมภีร์เทพ IT
Chrome Developer Tools และ Extensions ต่างก็มีประโยชน์และสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ Web Developers บทความนี้จึงได้รวบรวม Chrome DevTools, Extensions และเคล็ดลับสำหรับ Web Developers เพื่อช่วยปรับ Workflow ของคุณให้มีประสิทธิภาพ และเร่ง Development Process ของคุณ
EXTENSIONS:
- Adblock Plus: Extension นี้จะ Block โฆษณาบน Website ที่คุณเยี่ยมชม โดยมันจะขจัดสิ่งรบกวน แม้มันจะไม่ได้มีไว้สำหรับ Developers โดยเฉพาะ แต่มันก็เป็น Tool ที่มีประโยชน์เช่นกัน
- React Dev Tools / Vuejs Devtools: Extensions เหล่านี้มีความจำเป็นสำหรับการ Debug React หรือ Vue Applications คุณสามารถตรวจสอบ Components, ดู Props และ State รวมทั้งอื่น ๆ อีกมากมาย
- Redux Dev Tools: หาก App ของคุณใช้ Redux เชื่อว่า Tool นี้จะเพิ่ม Redux Tab แยกต่างหากใน Dev Tools ซึ่งจะช่วยให้คุณ Debug State ของมันได้
- Dark Mode: Extension นี้จะช่วยเปิดใช้งาน Dark Mode บน Websites ที่ไม่มี Mode นี้ได้ เช่น Google Calendar, Google Sheets เป็นต้น
- JSON Formatter: มันจะช่วยทำให้ Raw JSON Data สามารถอ่านได้ง่ายขึ้น หากคุณมี JSON File ที่ถูก Compress คุณสามารถ Paste มันลงได้ที่นี่ และมันจะจัด Format ให้สวยงาม
- ColorZilla: ColorZilla จะช่วยให้คุณเลือกสีที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ มันเปรียบเป็น Color Picker ใน Browser ของคุณ
- WhatFont: มันคล้ายกับ ColorZilla โดย Extension นี้จะช่วยให้คุณเลือก Font จาก Website ได้ หากคุณเห็น Font ใน Website อื่นที่คุณชอบและต้องการใช้พวกมันในการออกแบบ คุณสามารถเลือก Font นั้นได้ด้วย Extension นี้
- Screenshot Tool: Screenshot Tool จะช่วยให้คุณจับภาพ Screenshots ได้อย่างรวดเร็วด้วยความละเอียดที่คุณต้องการ มันมีประโยชน์อย่างยิ่งในกรณีที่คุณต้องการจับภาพ Screenshots ใน Projects ของคุณเพื่อนำไปใส่ใน Portfolio ของคุณ
Developer Tools:
ตอนนี้ เรามาดูเครื่องมือ Developer Tools ใน Browser ของเรากัน คุณสามารถเข้าถึง Tools เหล่านี้ได้ด้วยการ คลิกขวาแล้วเลือก "inspect element" หรือกด fn+f12
Tabs หลัก ๆ ที่คุณน่าจะใช้งานกันบ่อย ๆ ก็คือ
- Elements: Tab นี้เป็นศูนย์ควบคุมของ HTML และ CSS คุณสามารถตรวจสอบ Structure ของ Web Page และดู CSS Styles ที่ใช้กับ Elements ต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถแก้ไขได้โดยตรงใน Tab นี้และดูผลลัพธ์แบบ Real-Time บน Screen ได้อีกด้วย
- Console: Tab นี้ใช้สำหรับโต้ตอบกับ JavaScript คุณสามารถ Run JavaScript Code ได้โดยตรงใน Tab นี้ได้ แต่ส่วนใหญ่มันจะถูกใช้เพื่อตรวจสอบ Errors หรือ Log Messages ขณะทำการ Debug Application
- Sources: หากคุณต้องการ Debug JavaScript Code ของคุณอย่างละเอียดมากขึ้น คุณสามารถใช้ Sources Tab เพื่อ Set Breakpoints วิธีนี้ช่วยให้คุณหยุดการทำงานของ Code และ Run Code ทีละบรรทัดได้
- Network: Tab นี้จะแสดง Resource ทั้งหมดที่ Website โหลด เช่น HTML, CSS, JS Files, Images, Icons เป็นต้น
- Application: นี่เป็น Tab ที่มีประโยชน์อีก Tab หนึ่งในการตรวจสอบและจัดการ App Storage คุณสามารถตรวจสอบ Cookies, Local Storage Items, Sessions และ Background Services อย่างเช่น Background Cache, Services Workers ฯลฯ
- Performance: Tab นี้จะช่วยให้คุณสร้าง Profile Load Times และ Identify Bottlenecks ของ Site ได้ หากคุณต้องการเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วของ Website นี่คือหนึ่งในจุดแรกที่คุณควรพิจารณา
- Memory: ใช้ Memory Tab สำหรับติดตาม Memory Usage และระบุ Memory Leaks ได้
- Lighthouse: Lighthouse Tab เป็น Auditing Tool ที่มีประโยชน์ซึ่งคุณสามารถ Run Audits ในเรื่องของ Performance, Accessibility และ SEO Optimization
- Performance Insights: Tab นี้ยังเป็น Feature ทดลองอยู่ ซึ่งคุณสามารถรับข้อมูลเชิงลึกที่ละเอียดยิ่งขึ้นเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ Tab นี้จะวิเคราะห์ Loading Process ของคุณ, ระบุ Elements หรือ Tasks เฉพาะบางอย่างที่อาจทำให้ทุกอย่างช้าลง
- Tabs อื่นๆ:
- Redux + Adblock Plus: Tabs เหล่านี้ ถูกเพิ่มโดย Extensions ที่เราติดตั้ง Redux Tab จะมีประโยชน์อย่างมากเมื่อคุณทำงานกับ Application ที่ใช้ Redux State
- Recorder: Tab นี้จะช่วยให้คุณ Capture และ Replay การโต้ตอบของ User เพื่อระบุ Errors หรือ Automate Testing
PRO TIPS:
นี่คือเคล็ดลับบางส่วนเพื่อปรับปรุง Development Workflow ของคุณ:
- Responsive Design: หากต้องการทดสอบ Website ของคุณใน Screen Sizes และ Resolutions ต่าง ๆ คุณสามารถคลิกที่ Icon ด้านบนซ้าย และเลือก Device Resolution ที่ต้องการ หรือป้อน Resolution ที่คุณกำหนดเอง
- Select an Element: Icon อื่นที่อยู่ใกล้ ๆ กันนั้น จะช่วยให้คุณเลือก Element จาก Screen ได้โดยเลื่อนเมาส์ไปเหนือ Element นั้น
- Network Throttling: หากคุณต้องการตรวจสอบว่า Website ของคุณทำงานอย่างไรเมื่อมี Connection ที่ช้า คุณสามารถตั้งค่า Network Throttling ให้ช้าลงเป็น 3g หรือสร้าง Rules ที่กำหนดเองใน Network Tab
- Conditional Breakpoints: คุณสามารถใช้ Conditional Breakpoints เพื่อหยุดการทำงานของ Code เมื่อตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดเท่านั้น
- กำหนด Breakpoint ในบรรทัดของ Code ที่คุณต้องการตรวจสอบ
- คลิกขวาที่ Breakpoint (โดยปกติจะเป็นวงกลมสีแดงถัดจากหมายเลขบรรทัด)
- เลือก “Add condition…” จาก Context Menu
- ป้อน JavaScript Expression ที่ต้องเป็น True สำหรับ Breakpoint เพื่อหยุดชั่วคราว ตัวอย่างเช่น คุณอาจตั้งเงื่อนไขเป็น error === true เพื่อหยุดชั่วคราว เฉพาะเมื่อเกิด Error
- Workspaces (Chrome Specific): คุณสามารถแก้ไข Code ใน Code Editor และดูการเปลี่ยนแปลงที่แสดงใน Browser ของคุณได้ทันทีด้วย Workspaces หากคุณต้องการเปิดใช้งาน Workspaces ให้ทำตามขั้นตอนดังนี้:
- เปิด Chrome DevTools (คลิกขวาที่ใดก็ได้บน Webpage แล้วเลือก “Inspect” หรือกด F12)
- ไปที่ Sources Tab
- ที่มุมบนขวา ให้คลิกที่ Folder Icon ที่มีเครื่องหมายบวก (+) ข้าง ๆ เพื่อเปิดใช้งาน Workspaces (หรือ Drag & Drop Project Folder ของคุณที่นี่)
- Dialog Box จะปรากฏขึ้น ให้คลิก "Add folder" และเลือก Directory ในเครื่องของคุณที่จัดเก็บ Project Files ของคุณ การดำเนินการนี้จะสร้าง Connection ระหว่าง Code Editor และ DevTools
- ตอนนี้การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่คุณทำกับ Code ใน Editor ที่คุณชอบ (เช่น Visual Studio Code, Sublime Text) จะแสดงใน Browser Window ที่อยู่ภายใน DevTools ทันที
BONUS TIP: คุณสามารถประหยัดเวลาได้ด้วยการใช้ Keyboard Shortcuts คุณสามารถเข้าถึง Command Menu ได้โดยการกด Ctrl+Shift+P (Windows) หรือ Cmd+Shift+P (Mac) ซึ่งจะช่วยให้คุณค้นหาและ Execute DevTools ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ Keyboard Shortcuts
ที่มา: https://levelup.gitconnected.com/
รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert
อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ
บทความล่าสุด