7 VS Code Extensions ที่เหมาะสำหรับ Software Engineering
16-ส.ค.-24
คัมภีร์เทพ IT
ในบทความนี้ คุณจะได้รู้จักกับ 7 VS Code Extensions ที่เหมาะสำหรับ Software Engineering เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณ รวมทั้งเพื่อให้คุณเขียน Code ได้นานและสนุกยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลดีทั้งต่อการทำงานของตัวคุณเอง และ Workflows ของทีม
เชื่อว่า Programmer จะรู้สึกดีเมื่องาน Auto-Complete ของคุณ ทำงานได้อย่างถูกต้อง และคุณก็ทำตามคำแนะนำได้โดยใช้ Input เพียงแค่เล็กน้อย จุดประสงค์เดียวของ Extension นี้ ก็คือ เพื่อนำความสามารถนี้มาใช้กับ Tag-based Languages และทำให้คุณรู้สึกสงบอย่างแท้จริงด้วยการเพิ่ม Closing Tag โดยอัตโนมัติเมื่อทำงานกับ HTML โดยยังรองรับการใช้งาน Tags ในภาษาอื่น ๆ เช่น XML, PHP, Vue, JavaScript, TypeScript, JSX, และ TSX อย่าลืมว่า XML ก็ใช้ Tags เช่นกัน ซึ่งมีประโยชน์สำหรับ Java และ DotNet Developers
บ่อยครั้งที่การเปลี่ยนแปลงเพียงแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เป็นสิ่งที่คุณต้องการมากที่สุด
เช่นเดียวกับ Auto Close Tag เจ้า Extension นี้มีเป้าหมายที่จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างรวดเร็วในฐานะของ Developer
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้สามารถทำได้ผ่าน AI ที่เข้าใจ Code ของคุณและเสนอแนะ Code เพื่อทำงานนั้น ๆ คุณสามารถทำสิ่งนี้ภายใน VS Code Editor ของคุณโดยการส่งคำถามให้ GitHub Co-Pilot ผ่าน Comment ง่าย ๆ แล้วมันจะแนะนำ Code เพื่อทำงานตามคำถามเหล่านั้น คุณสามารถ Autocomplete Code นี้ลงใน Projects ได้อย่างง่ายดายด้วยการกด Tab เพียงครั้งเดียว Extension นี้ยังเหมาะสำหรับการเขียน Boilerplate Code สำหรับ Frameworks ทั่วไปหรือการสร้าง Unit Test ได้อย่างรวดเร็ว
มันเป็น Extension ที่ต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้ Features ครบถ้วนทั้งหมด แต่มันก็คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหากคุณเป็นมืออาชีพ คุณสามารถลงทะเบียนทดลองใช้งาน GitHub Co-Pilot ได้ฟรีที่นี่
Extension นี้จะทำให้ Code ของคุณอ่านและ Scan ได้ง่ายขึ้น ด้วยการเพิ่ม Comments ที่มีสีสันผ่านการใช้ Prefixes เช่น * ! และ ? เพื่อควบคุมการแสดงผลของ Comments ตามระดับความสำคัญหรือวัตถุประสงค์ เมื่อทำงานร่วมกับทีม การใช้ Extension นี้และการทำเครื่องหมาย Comments อย่างเหมาะสม สามารถทำให้เป็น Communication Tool ที่ยอดเยี่ยมเมื่อทำงานกับ Code Base ที่มีการเปลี่ยนแปลง
โปรดจำไว้ว่า ขณะที่ทำงานกับ Repos ที่คนในทีมเข้ามาใช้งานร่วมกัน หากคุณวางแผน ที่จะใช้และแชร์ Configurations ที่เฉพาะเจาะจงภายในทีมของคุณ ควรพิจารณาสร้าง settings.json File สำหรับ Repo นั้นและทำการ Commit File นี้ใน Version Control เจ้า File นี้จะกำหนด Settings ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับ Project เพื่อให้คุณและสมาชิกในทีมสามารถซิงค์การตั้งค่าของ Extension ของพวกเขาได้ และทำให้มั่นใจว่า Extensions อย่าง Better Comments สามารถใช้ได้อย่างสม่ำเสมอระหว่างสมาชิกในทีม
4. Live Share
หากคุณเคยใช้ Live Sharing และมีประสบการณ์การแก้ไขใน Text Processor อื่น ๆ เช่น Google Docs หรือ Office Suite, Live Share Extension ใน VS Code มีเป้าหมายเพื่อจำลองประสบการณ์นี้สำหรับการแก้ไข และ Navigate Code Base อย่างราบรื่นสำหรับ Developers เมื่อทำงานใน Remote Teams, Extension นี้มีความสำคัญมากในการช่วยให้สามารถทำงานแบบ Pair Programming ได้ โดยที่คนหนึ่งยังคงนำทางและเขียน Code ทั้งหมด ส่วนอีกคนสามารถสำรวจและช่วยเหลือใน Codebase ที่เหลือทั้งหมดผ่าน Live Connection ระหว่างทั้งสองฝ่าย
เพื่อให้ Extension นี้ทำงานได้, ทั้ง Host และบุคคลที่เข้าร่วม Live Share ต้องติดตั้งมันด้วยทั้งคู่ การตั้งค่าความปลอดภัยที่หลากหลายของ Extension นี้ จะช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งวิธีการเชื่อมต่อกับผู้อื่นหรือวิธีการที่พวกเขาเชื่อมต่อกับคุณ รวมทั้งช่วยให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาที่ยุ่งยากได้
5. CodeSnap
คุณอาจจะต้องจับภาพ Screenshots ของ Code ของคุณอยู่บ่อย ๆ หรือคัดลอก Code Snippets ไปวางใน Documents สำหรับการเรียน, Documentation หรือแม้แต่การโพสต์ Blog ซึ่ง CodeSnap ถือเป็นเครื่องมือที่ดีสำหรับการสร้างภาพ Screenshots ที่สวยงามสำหรับ Coding Projects ของคุณ
Extension นี้สามารถปรับแต่งได้สูงมาก ทำให้คุณสามารถปรับขนาดภาพที่ออกมาให้เหมาะกับจุดหมายปลายทางที่ต้องการ และใช้สไตล์ที่แตกต่างจาก Theme ของ VS Code ซึ่งช่วยให้คุณสามารถปรับแต่งได้หลากหลายตามกลุ่มเป้าหมาย
อย่าลืมว่า เมื่อคุณสร้างภาพของ Code แล้ว ควรเพิ่ม Link กลับไปยังแหล่งที่มาด้วย เพื่อให้คนอื่นสามารถคัดลอกและวาง Code ได้เหมือนปกติ
6. GitLens
หากคุณเป็น Developer คุณน่าจะใช้ Git เพื่อทำงานร่วมกับสมาชิกในทีม, องค์กร หรือแม้แต่กับคนทั่วโลกด้วยการเป็นส่วนหนึ่งของ Open-Source Project ซึ่งหมายความว่า จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายภายใน Git และ Commit ที่อธิบายการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ Codebase
อย่างไรก็ตาม การต้องสลับไป-มาระหว่าง Editor และ GitHub อาจทำให้ยากที่จะค้นหาและเข้าใจบริบทของการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
ด้วย GItLens Extension คุณจะได้รับ Features ที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับ Software Developer ที่ใช้ Git ในงานประจำวันของพวกเขา ซึ่ง Extension นี้ยังรวมถึง Features ดังต่อไปนี้:
- Git Blame, CodeLens และ Hovers
- File Annotations
- Revision Navigation
- Commit Graph
- GitKraken Workspaces
- Visual File History
- Work Trees
ด้วยการนำ Features ทั้งหมดเหล่านี้มาโดยตรง GitLens จะช่วยให้คุณได้เห็นบริบทอีกชั้นหนึ่งใน Software Development Process ภายใน Code Editor
7. Prettier
หากคุณกำลังทำงานกับภาษาต่าง ๆ เช่น YAML, JSON, JavaScript หรือ Typescript ที่ต้องการจัด Format ที่สอดคล้องกันเพื่อให้สามารถอ่านได้เข้าใจง่าย เชื่อว่า Prettier น่าจะเป็น Extension ที่คุณกำลังมองหา ด้วย Linter ที่มีการรองรับหลายภาษา จะช่วยให้คุณสามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ Style ทั่วไปได้อย่างรวดเร็ว และใช้ Rule ที่สม่ำเสมอทั่วทั้ง Files ที่คุณทำงานอยู่
คุณสามารถตรวจสอบรายการ Configurations ทั้งหมดได้ที่นี่ คุณสามารถเปลี่ยน Configuration นี้ต่อ Project ได้ง่าย ๆ โดยการเพิ่ม .prettierrc File การ Commit File นี้ไปยัง Repo ของ Project จะทำให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่า คุณหรือทั้งทีม จะใช้การเปลี่ยนแปลง Linting ไปใช้อย่างสม่ำเสมอใน Project
สรุป
เชื่อว่า 7 VS Code Extensions เหล่านี้จะช่วยให้คุณเป็น Developer ที่เก่งและเชี่ยวชาญมากขึ้น และสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเหล่านี้ ในการปรับปรุง Workflows ของคุณและทีมได้
ที่มา: https://levelup.gitconnected.com/
รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert
อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ
บทความล่าสุด