บทความ IT เจ๋งๆ

        เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงได้ยินหรือมีความรู้เรื่อง Bitcoin กันมาพอสมควร ยิ่งในช่วงปีนี้ถือเป็นเรื่องที่บูมมาก วันนี้ทีมงาน TechStar มีบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ 5 เหตุผลที่ทำให้ Bitcoin ไม่ถูกคุกคามจากสกุลเงินดิจิทัลที่รัฐบาลออก มาให้อ่านเพื่อเสริมความรู้กันครับ

        ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาธนาคารกลางหลายแห่งทั้ง People's Bank of China และ Bank of England ได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการออกสกุลเงินดิจิทัลของตนเองเพื่อตอบสนองต่อการเกิดขึ้นของ Bitcoin บางคนคาดการณ์ว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวของธนาคารกลางจะทำลายมูลค่าของ Bitcoin ไป แต่คุณ Bobby Lee (CEO ของ BTCC) มีมุมมองแตกต่างไป ซึ่งคุณ Lee ได้กล่าวถึง ข้อแตกต่าง 5 เรื่องระหว่าง Bitcoin และเงินในรูปแบบอื่นที่ออกโดยรัฐบาล ในงาน Fintech Week New York 2017 โดยใจความสรุปว่า "ถ้าเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ออกให้โดยธนาคารกลาง ส่วนใหญ่แล้วมันน่าจะใช้งานกันอย่างกระจุกตัว ซึ่งต่างจาก Bitcoin"

1. ใครสามารถใช้เงินได้บ้าง?
   ประเด็นแรกที่ Lee กล่าวคือ สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางนั้นจะไม่เปิดให้ทุกคนใช้ แต่สำหรับ Bitcoin แล้ว ทุกคนสามารถสร้างที่อยู่ใหม่และรับเงินได้จากการคลิกแค่เพียงปุ่มเดียว Lee มองว่ารัฐบาลจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่ระบุตัวตนใช้สกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากรัฐบาลต้องการติดตามกิจกรรมทางการเงินให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
   
   มันน่าสังเกตตรงที่ ปัญหานี้ยังมีอยู่ในสกุลเงินดิจิทัลที่มีทองคำหนุน ซึ่ง Lee มุ่งความสนใจไปที่ส่วนหนึ่งของบทวิจารณ์ในประเด็นการขุดเหมือง Bitcoin ของคุณ Peter Schiff (President และ Chief global strategist ของ Euro Pacific Capital Inc.) ผู้ออกมาตรการเกี่ยวกับสกุลเงินเสมือนดูจะตกเป็นเป้าหมายของหน่วยงานกำกับดูแลได้ง่าย หากผู้ออกสกุลเงินเสมือนที่มีทองคำหนุนไม่เล่นตามกติกา รัฐบาลจะเข้ามาจัดการและอาจถูกปิดตัวลง เช่นเดียวกับที่เคยเกิดกับ E-gold และ Liberty Reserve สำหรับสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยรัฐบาลนั้น รัฐบาลต้องการผูกติดกับข้อมูลประจำตัวของคุณ และต้องการทราบว่าใครมีบัญชีบ้าง Lee ยังเสริมว่า Bitcoin เปรียบเสมือนกระเป๋าสตางค์ในกระเป๋าของคุณ”
    
2. การไม่ระบุตัวตนของเงิน สามารถทำได้หรือไม่?
   เรื่องต่อมาที่คุณ Lee นำมาเชื่อมโยงกันกับประเด็นแรกคือ การไม่อนุญาตให้เข้าถึงกระเป๋าสตางค์ของสกุลเงินดิจิทัล แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ว่า รัฐบาลจะอนุญาตให้มีการทำธุรกรรมแบบไม่ต้องระบุตัวตนบนโลกอินเทอร์เน็ตได้ Lee ชี้แจงว่า เขาไม่ได้ตัดสินว่า การไม่ต้องระบุตัวตนเป็นสิ่งที่ดีกว่าหรือไม่ เขาเพียงแค่อธิบายลักษณะของ Bitcoin สำหรับกรณีนี้เท่านั้น
   
   เป็นที่น่าสังเกตว่าระดับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ Bitcoin ตอนนี้มันค่อนข้างแย่มาก แต่อย่างไรก็ตามมีการเสนอเกี่ยวกับการปรับปรุงที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวหลายประการ ตัวอย่างหนึ่งคือ MimbleWimble ส่วน altcoins ก็ให้ความสำคัญในเรื่องความเป็นส่วนตัวด้วย อย่างที่มีใช้งานกันก็มี Monero และ Zcash สำหรับคนที่สนใจใน Bitcoin ควรจะดูว่าหน่วยงานที่กำกับดูแล มีการตอบสนองอย่างไร เมื่อการปรับปรุงในด้านความเป็นส่วนตัวเหล่านี้ ถูกรวมไว้ในโปรโตคอล
    
3. การชำระเงินและการทำธุรกรรม จะถูกจัดการอย่างไร?
   สำหรับ Bitcoin จะได้รับการอนุญาตให้ทำธุรกรรมและทำจนเสร็จสิ้นเสมอ ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งเหตุผลที่เป็นการเปิดช่องให้เกิด ransomware เล่นงานและการ Shopping ในตลาดมืด (Darknet) เพราะมันทำงานเหมือนเงินสด จากมุมมองของ Lee เชื่อว่า รัฐบาลจะยังคงพูดซ้ำๆ ไม่ว่าการชำระเงินจะถูกทำในทางตรงกันข้ามกับบนแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลหรือไม่ก็ตาม และ Lee ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า "มันจะเป็น blockchain ที่ถูกรวมอำนาจไว้ที่ศูนย์กลาง และไม่ใช่ blockchain ที่กระจายตัวออกไป"
    
4. มีข้อจำกัดในการชำระเงินหรือไม่?
   สิ่งหนึ่งที่ Lee เชื่อว่าสกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยรัฐบาล จะดำเนินรอยตาม Bitcoin คือ การมีข้อจำกัดเกี่ยวกับทางด้านภูมิศาสตร์และจำนวนเงิน คุณ Lee กล่าวว่า "Bitcoin คือ เสรีภาพของเงิน" "คุณสามารถจ่ายเงินให้ใคร เท่าไร และที่ใด ก็ได้"
   
   ประเภทของการชำระเงินออนไลน์ในปัจจุบัน สำหรับสกุลเงิน fiat มักจะมาพร้อมกับข้อจำกัดที่ว่า จะสามารถส่งเงินได้มากเพียงใดและสามารถส่งเงินได้ที่ไหน ซึ่ง Lee เชื่อว่าข้อจำกัดเหล่านี้อาจถูกยกเลิกเมื่อรัฐบาลต้องการออกสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง
    
5. เก็บรักษามูลค่าในสกุลเงินได้อย่างไร?
   ความแตกต่างข้อสุดท้ายระหว่าง Bitcoin กับ สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยรัฐบาล คือ ไม่มีธนาคารกลางใด ที่จะมาตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินของ Bitcoin การออก Bitcoin ใหม่จะถูกร่างไว้ในโปรโตคอลของระบบ Network และมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้จากการ support อย่างเต็มที่ของทุกคนในเครือข่ายเท่านั้น สกุลเงิน fiat ถูกกำหนดให้เป็นไปตามนโยบายทางการเงินที่ระบุไว้โดยธนาคารกลาง สกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะเป็นเงินเฟ้อที่กินช่วงเวลานาน นั่นหมายถึงว่า มูลค่าที่แท้จริงในสกุลเงินนั้น ก็จะลดลงไปด้วย สำหรับประเทศที่ตัดสินใจที่จะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ จะสามารถบังคับใช้นโยบายดังกล่าวผ่านสกุลเงินดิจิทัลได้ด้วย แต่ผู้ใช้ Bitcoin จะไม่ได้รับผลกระทบในสถานการณ์เหล่านั้น

ที่มา: forbes.com

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ
 

บทความที่เกี่ยวข้อง

• จาก .NET Developer สู่ Web Animator

• ข้อดีและข้อเสีย ของ Polyglot Programming

• “Solver Team” คำตอบของการสร้างทีมพัฒนาซอฟท์แวร์ในยุคดิจิตอล