5 เรื่องที่เปลี่ยนแล้วชีวิตการงานจะดีรับปีใหม่

05-ม.ค.-17

คัมภีร์เทพ IT


ช่วงวันหยุดที่ผ่านมาแอบเห็นหน้า Feed บน Facebook ของเพื่อนๆ หลายคนแชร์เป้าหมายหรือตั้ง New Year Resolution ของตัวเองต่างๆ นานา “ฉันจะลดน้ำหนัก” “ฉันจะเลิกบุหรี่” “ฉันจะเริ่มกินคลีน” ฯลฯ ช่วงเริ่มต้นปีแบบนี้เป็นช่วงที่หลายๆ คนมีแรงกระตุ้นให้ตัวเองได้ทบทวนเพื่อปรับปรุงในสิ่งที่ผิดพลาดให้ดีขึ้นและตั้งใจที่จะเริ่มลงมือทำในสิ่งใหม่ๆ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีมากๆ

สำหรับชีวิตการทำงาน นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่คุณจะได้หยุดคิดทบทวนตัวเองว่า ที่ผ่านมาคุณเต็มที่กับงานมากแค่ไหน? พอใจกับผลตอบแทนจากงานที่ทำไหม? มีความสุขกับงานรึเปล่า? ถ้าคำตอบในข้อใดข้อหนึ่งคือ “ไม่” แปลว่าถึงเวลาที่คุณต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้างอย่างแล้ว
 

เปลี่ยนการยึดติดความรู้เดิมๆ

ในโลกไอทีและเทคโนโลยีมีเรื่องเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทุกวัน ความรู้ใหม่ๆ ในวันนี้ อาจจะ “เอ้าท์” ได้ในแค่ชั่วข้ามคืน Programmer น่าจะซึ้งถึงข้อนี้ดี Pascal คือภาษาที่เราใช้เขียนโปรแกรมในยุคก่อน หลังจากนั้นก็มีภาษาใหม่ๆ เกิดขึ้นตามมาเป็นตับ!  C C# C++ COBOL Perl PHP ASP JAVA Prolog .Net Ruby ฯลฯ ใครที่ยังยึดติดอยู่กับความรู้เดิมๆ ก็จะตามไม่ทัน แถมไอทีรุ่นน้องที่จบมาพร้อมกับความรู้และทักษะภาษาใหม่ๆ ก็มาป็นคู่แข่งในสายอาชีพเดียวกันอีก ใครที่ไม่ยอมเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่และพัฒนาตัวเอง รู้ตัวอีกทีอาจล้าหลังตามคนอื่นไปทันแล้วก็ได้

 

เปลี่ยนโฟกัส

การตั้งเป้าหมายในการทำงานเป็นเรื่องสำคัญแต่จะทำอย่างไรให้เราไปถึงเป้าหมายนั้น? ทำไมบางคนไปถึงแต่อีกหลายคนไปไม่ถึง? คนที่มีความสามารถ มีทักษะ พอๆ กันทำไมไปถึงเป้าหมายไม่พร้อมกัน? หนึ่งในคำตอบนั้นคือ “โฟกัส” ลองกลับมาถามตัวเองดูว่า ใน 1 วัน เราเสียพลังงานไปกับอะไรบ้าง? เล่นเฟสบุค แชตไลน์ ท่องในโลกอินเตอร์เน็ต ฯลฯ สิ่งที่ได้คุ้มค่ากับพลังงานที่เสียไปไหม? เลือกทุ่มเมและใช้พลังงานกับสิ่งที่จะพาเราไปถึงเป้าหมาย ใช้เวลาในการทำงานอย่างฉลาด เริ่มปีใหม่ด้วย “Work smarter” และพอกันทีกับการ “Work hard”

 

เปลี่ยนเวลา

งานสายไอที เป็นสายงานที่เวลาทำงานต่างจากคนอื่นๆ โดยเฉพาะบริษัทที่ทำธุรกิจไอทีโดยตรงอย่างซอฟแวร์เฮ้าส์ ยิ่งช่วงใกล้ปิดโปรเจค ต้องปั่นงานกันแทบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันกันเลย เพื่อให้งานเสร็จทันตามกำหนดของลูกค้า จนทำให้เสียสุขภาพแบบพระเอกในหนังเรื่อง ฟรีแลนซ์ เป๊ะ เรื่องนี้ต้องเปลี่ยนจากตัวเองก่อน เริ่มจากวางแผนการทำงานและกำหนดเวลาที่ชัดเจน โฟกัสกับงานที่ทำและพยายามทำให้เสร็จตามกำหนด พอกันทีกับการทำงานสไตล์ที่ชิลล์ตอนต้นแล้วมาปล่อยพลังตอนท้าย สุดท้ายก็ตายตอนจบ

 

เปลี่ยนทัศนคติ

เคยเห็นคนประสบความสำเร็จเกลียดสิ่งที่ตัวเองทำไหม? ลองนึกถึงบุคคลที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ซิ สตีฟ จอบส์, บิลล์ เกตส์, แจ๊ค หม่า นั่นหละคือคำตอบ คนเหล่านี้จะมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันสิ่งที่คนอื่นอาจจะคิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ คนที่รักในงานจะมีความรู้สึกขยัน กระตือรือร้น สนุกกับสิ่งที่ทำ พร้อมเผชิญปัญหา และมองปัญหาเป็นเรื่องท้าทาย ไม่ใช่อุปสรรค แล้วเปลี่ยนทัศนคติทำยังไง? คำตอบคือ ถ้ายังไม่เจองานที่รัก คงต้องลองเริ่มรักงานที่ทำก่อน!

 

เปลี่ยนงาน

ถ้าลองเปลี่ยน 2 ข้อแรกแล้วยังไม่เวิร์ค “เปลี่ยนงาน” ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับปีใหม่นี้ แต่ก่อนจะตัดสินใจอยากให้ลองตั้งคำถามและตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า อะไรที่ไม่โอเคอยู่ตอนนี้? และอะไรคือสิ่งที่กำลังมองหาในงานใหม่? ยิ่งเรามีคำตอบที่ชัดเจนเท่าไหร่ เราจะสามารถตั้งเป้าหมายและเงื่อนไขกับงานใหม่ได้ชัดเจนขึ้นด้วย (งานแบบไหน? ตำแหน่งอะไร? บริษัทประเภทไหน? หัวหน้างานแบบไหน? เงินเดือนเท่าไหร่?) เปลี่ยนงานทั้งทีชีวิตต้องดีขึ้นซิ จริงไหม? หรือบางทีเราอาจพบว่า ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่งาน แต่อยู่ที่ตัวเอง...วนกลับไปอ่านข้อ 1 - 4 ด่วน!

 

มกราคม คือช่วงที่ดีที่สุดที่จะเปลี่ยนชีวิตการทำงานให้ดีกว่าเดิม...พอทีกับการผลัดมาปีแล้วปีเล่า เริ่มปีใหม่นี้เลย!

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

 

เพิ่มเพื่อน