20 คำสั่ง Git พื้นฐาน ที่ Developer นำไปใช้ในการทำงานได้

01-มิ.ย.-22

คัมภีร์เทพ IT

ส่วนใหญ่ Developer จะทำงานร่วมกันเป็นทีม ไม่ว่าจะเป็น Developer มือใหม่หรือมือเก๋า ก็มักจะใช้งาน Git กันแทบทุกคน และในบทความนี้ก็เป็นการรวบรวม 20 คำสั่ง Git พื้นฐาน ที่ Developer นำไปใช้ในการทำงานได้ เพราะเป็นคำสั่งที่ Developer มักใช้งานกันบ่อย ๆ

1. git init

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อสร้าง Git Repository ให้กับ Project

2. git remote add origin <link-to-github-remote-repo>

ตัวอย่าง:

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Add หรือ Connect กับ Remote Repository

3. git remote

คำสั่งนี้ โดยรวมแล้วใช้เพื่อจัดการกับ Remote Repositories ไม่ว่าจะเป็นการ Create, View หรือ Delete

4. git status

คำสั่งนี้ใช้เพื่อ View Status ของ Files ใน Local Repository ของคุณ ว่าไฟล์กำลังถูก Tracked? ไม่ถูก Tracked? ถูก Modified?

5. git add <file name>

ตัวอย่าง:

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Stage ไฟล์ที่ถูก Modified หรือ Untracked

git add

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Stage ไฟล์ที่ Unstaged ทั้งหมด

6. git reset

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Unstage ไฟล์

7. git commit

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Commit ไฟล์ที่ถูก Staged แล้ว

git commit -m “<commit message here”>

ตัวอย่าง: 

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Commit ไฟล์ที่ถูก Staged แล้ว และสามารถใส่ Commit Message สำหรับเป็น Commit History ได้

8. git push -u origin <branch-name>

ตัวอย่าง:

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Push ไฟล์ที่ถูก Committed แล้วไปยัง Remote Repository (หรือ GitHub) ใน Branch ที่กำหนดไว้ คุณสามารถใช้คำสั่งนี้ในครั้งแรกที่คุณ Push ไฟล์ไปยัง Remote Repository มันจะกำหนดตำแหน่งที่คุณกำลัง Push ไฟล์เหล่านี้ไป และในครั้งต่อไปที่คุณ Push ไฟล์ คุณสามารถใช้คำสั่ง git push ได้

git push

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Push ไฟล์ที่ถูก Committed แล้วไปยัง Remote Repository

หมายเหตุ: คุณสามารถใช้คำสั่งนี้เพื่อ Push ไฟล์ไปยัง Remote Repository ได้ ก็ต่อเมื่อมีไฟล์ที่ถูก Pushed แล้ว จากการใช้คำสั่งก่อนหน้านี้ เท่านั้น

9. git fetch

คำสั่งนี้ ถูกใช้เพื่อ Fetch Version ล่าสุดของ Local Repository ของคุณ คุณสามารถตรวจดูได้ว่ามี Files ใหม่,  Branches ใหม่, การลบใด ๆ หรือไม่ เป็นต้น

10. git pull

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อนำข้อมูลที่คุณเพิ่ง Fetch มา และ Pull ไปยัง Local Repository ของคุณ สิ่งนี้จะช่วยทำให้ Local Repository ของคุณให้เป็น Version ที่ Update ที่สุดของ Remote Repository ของคุณ

11. git rm -r — cached <fileName>

ตัวอย่าง:

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Remove ไฟล์ออกจาก Remote Repository (GitHub) โดยที่ไม่ต้อง Delete ไฟล์ใน Local Repository ของคุณ

12. git branch

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Preview Branch ที่คุณกำลังใช้งานอยู่

git branch -a

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Preview Branches ทั้งหมดใน Local และ Remote Repository ของคุณ

git branch -r

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Preview Branches ทั้งหมดใน Local Repository ของคุณ (หรือเป็น Branches ที่คุณเคยเข้าไปแล้ว)

git branch <branch-name>

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Create Branch ใหม่ใน Local Repository ของคุณ

13. git checkout — track origin/<branch-name>

ตัวอย่าง:

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Switch Branches ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งในกรณีที่คุณกำลังไปยัง Branch (ที่ถูก Created ใน GitHub/ Remote Repository) เป็นครั้งแรก

14. git checkout <branch-name>

ตัวอย่าง:

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Switch ไปยัง Branches ที่คุณเคยเข้าไปก่อนหน้านี้

15. git merge <branch name>

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Merge Branch ทั้ง 2 Branches เข้าด้วยกัน ในการทำสิ่งนี้ ให้เข้าไปยัง Branch ที่คุณต้องการ Inherit การเปลี่ยนแปลง (Changes) และชื่อ Branch ที่คุณจะใช้พร้อมกับคำสั่งนี้ก็คือ Branch ที่จะจัดเตรียมสำหรับการเปลี่ยนแปลง

ตัวอย่าง: Master Branch จะ Inherit Code จาก Develop Branch

16. git merge — abort

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อยกเลิกการ Marge

หากไม่มี Conflict Errors อะไรเกิดขึ้น การ Merge ก็จะถูกทำจนเสร็จเสมอ ดังนั้น การยกเลิกนี้ จะใช้ได้เฉพาะในกรณีที่การ Merge ล้มเหลวเท่านั้น

แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่า จะสามารถทำสิ่งนี้ได้?

Terminal ของคุณจะแจ้งว่า การ Merge ล้มเหลวตั้งแต่แรกเลย นอกจากนี้มันยังบอกให้คุณแก้ไข Merge Conflicts

Screenshot of Git Bash

ดูที่ส่วนท้ายสุดของบรรทัดแรก ในวงเล็บจะเขียนว่า (master) เนื่องจากเราอยู่ใน Master Branch แต่ถ้าคุณอยู่ใน Develop Branch มันก็จะบอกว่า (develop)

หากการ Merge ของคุณล้มเหลว จะมีข้อความว่า (master|merged) หรืออะไรทำนองนั้น บางทีมันบอกว่า Merge หรืออาจเป็น Forward Slash หรือบางทีคุณอาจอยู่ใน Branch อื่น

นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่า การ Merge ของคุณล้มเหลว

ด้วยคำสั่ง git merge --abort จะทำการยกเลิกการ Merge ทั้งหมด

17. git merge -X theirs <branch name>

ตัวอย่าง:

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อ Merge Branch ทั้ง 2 Branches เข้าด้วยกัน และหากมี Merge Conflicts คำสั่งนี้จะเป็นการถือว่า คุณต้องการการเปลี่ยนแปลงที่ทำใน Branch ที่ถูกกล่าวถึง (แทนที่จะเป็น Branch ปัจจุบัน)

18. git reset — hard HEAD

คำสั่งนี้ จะเป็นการลบการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่คุณทำใน Local Repository ของคุณและ Update มันให้เป็น Version ล่าสุดที่ถูก Committed ไปยัง GitHub

19. git clean -f

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อลบไฟล์ที่ Untracked ใน Local Repository ของคุณ

20. git clean -d

คำสั่งนี้ ใช้เพื่อลบ Directories ที่ Untracked ใน Local Repository ของคุณ

อีกทั้งคุณยังสามารถ Combine ทั้ง 2 คำสั่งด้วย git clean -fd เพื่อที่คุณจะสามารถทำได้ทั้ง 2 อย่างได้

ที่มา:  https://enlear.academy/

 

 

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

เพิ่มเพื่อน

 

บทความล่าสุด