15 Python Libraries ที่ช่วยยกระดับการทำงานของ Backend Developer

15-ต.ค.-25

คัมภีร์เทพ IT

ถ้าคุณเป็นคนที่เขียน Python มาสักระยะ คุณอาจคุ้นเคยกับ Flask, Requests หรือ SQLAlchemy อยู่แล้ว แต่บ่อยครั้งที่เรามักไม่รู้จัก Libraries ที่อาจช่วยแก้ปัญหาการทำงานได้ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 15 Python Libraries ที่ช่วยยกระดับการทำงานของ Backend Developer ซึ่งจะช่วยให้ Code ของคุณ Clean ขึ้น, เร็วขึ้น และทำงานได้ง่ายขึ้น

1. httpx (เพราะ Requests ถึงเวลาต้องอัปเกรดแล้ว)

ที่จริง Requests ก็ดีอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้มีการ Update ครั้งใหญ่ ๆ มานานแล้ว httpx คือ Version ที่ทันสมัยและรองรับ Async อย่างเต็มรูปแบบ

ทำไมถึงสำคัญ: คุณจะได้การรองรับ HTTP/1.1 และ HTTP/2, มี Connection Pooling และการทำงานแบบ Async ที่แท้จริง ลองใช้ httpx ดูสิ แล้วคุณจะได้รู้ว่ามันดีจริงหรือไม่

2. Pydantic (การตรวจสอบ Data แบบไม่ต้องปวดหัว)

มี Backend Developers หลาย ๆ คนที่ต้องใช้เวลาไปอย่างมากกับการเขียน Validation Code แต่ Pydantic จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้โดยตรง

เกร็ดน่ารู้: เสน่ห์และความสามารถของ FastAPI ครึ่งหนึ่งก็มาจาก Pydantic นี่แหละ

3. orjson (JSON สายสปีด)

โดยปกติ json นั้นค่อนข้างช้า แต่ orjson ที่เขียนด้วย Rust กลับเร็วกว่า 10 - 12 เท่า

4. Rich (Log ที่ไม่ดูเหมือนอักษรโบราณ)

ถ้า Log ของคุณยังดูเหมือนภาพสลักมนุษย์ถ้ำ คิดว่าถึงเวลาต้องแก้กันแล้ว

ข้อดี: มันไม่เพียงแค่สวย แต่ยังช่วยให้คุณเห็นปัญหาได้ไวขึ้นด้วย พอคุณใช้ Rich ไปแล้ว กลับไปดู Log แบบเดิม อาจจะรู้สึกเหมือนกำลังดูวิดีโอเทป VHS เลย

5. FastAPI (ราชาที่คู่ควร)

เข้าใจว่ามันเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างจะชัดเจนและหลายคนน่าจะพอเดาได้อยู่แล้ว แต่ถ้าคุณยังเริ่ม Project ใหม่ด้วย Flask อยู่ มันเพราะอะไรกันแน่?

เหตุผล: มันทั้ง เร็ว, มี Auto-Docs, รองรับ Async เต็มรูปแบบ เรียกได้ว่า มันเป็นสวรรค์ของคนทำงาน Backend เลยทีเดียว

6. Dramatiq (ลืมฝันร้ายจาก Celery ไปได้เลย)

อันที่จริง Celery ก็เหมือนกับญาติห่าง ๆ ของ Dramatiq นั่นแหละ แต่การดูแลมันค่อนข้างจะเหนื่อยสุด ๆ ดังนั้น Dramatiq จึงเป็นทางเลือกที่ทันสมัยและง่ายกว่า

ข้อดี: ใช้ RabbitMQ/Redis ได้ แต่ไม่ต้องเขียน Config 200 บรรทัดให้ปวดหัว

7. SQLModel (ORM ที่ทำออกมาได้ถูกต้อง)

ถ้า SQLAlchemy กับ Pydantic มีลูกด้วยกัน มันก็คงจะเป็น SQLModel นี่แหละ

คุณสมบัติ: ใช้งานกับ Type Hint ได้ดี, รวดเร็ว และสามารถ Integrate เข้ากับ FastAPI ได้อย่างลงตัว

8. Tenacity (Retry แบบมือโปร)

อาการสะดุดของ Network อาจทำให้ API ล่มได้ง่าย เลิกเขียน Retry Loops เอง แล้วลองมาใช้ Tenacity แทนกันเถอะ

ข้อดี: มันอาจช่วยให้คุณไม่ต้องถูกเรียกปลุกขึ้นมาตอนตี 2 เพื่อแก้ปัญหาฉุกเฉินก็ได้

9. CacheTools (ตัวเร่งความเร็วสำหรับการเรียกใช้งานที่เปลืองทรัพยากร)

คติประจำใจของ Backend: ถ้าไม่ทำ Cache ก็เตรียมตัวเจอปัญหาได้เลย

ข้อดี: เพียงแค่บรรทัดเดียว คุณก็ได้ Time-To-Live Cache พร้อมใช้งานแล้ว

10. Uvicorn (Gunicorn เวอร์ชันปี 2024)

ASGI Server คือพลังหลักของ FastAPI/Starlette และ Uvicorn ก็คือ Server ความเร็วสูง

จากการได้ลองทดสอบ: ถ้าลองใช้ Flask + Gunicorn เทียบกับ FastAPI + Uvicorn ผลคือ FastAPI เร็วกว่า 2-3 เท่าเมื่อมี Load สูง

11. Loguru (Logging ที่ไม่ห่วยอีกต่อไป)

Logging ปกติใน Python ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเคี้ยวทรายอยู่ แต่ Loguru ก็เข้ามาทำให้มันน่าใช้ขึ้นเยอะ

เคล็ดลับ: มันจะจัดการ Rotation, Compression และ Formatting ให้โดยอัตโนมัติ

12. Tortoise ORM (Async ORM ที่ไม่ทำให้คุณร้องไห้)

SQLAlchemy ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้รองรับ Async เป็นหลัก แต่ Tortoise ถูกสร้างมาเพื่อสิ่งนี้

อธิบายง่าย ๆ: คิดซะว่ามันคือ Django ORM เวอร์ชัน Async-Native

13. Aiofiles (เพราะ File I/O แบบ Blocking จะหักหลังคุณ)

คุณเคยเขียน Async Code แล้วดันเจอปัญหา File Operation ของคุณ Block Loop ทั้งหมด บ้างไหม?

ข้อดี: มันเป็น Library เล็ก ๆ แต่มีความสำคัญมาก

14. Dependency Injector (สำหรับสาย Clean Architecture)

ถ้าคุณ Hardcode Dependency ไว้ ในอนาคตคุณจะต้องมานั่งร้องไห้ แต่ Library นี้จะช่วยทำให้ทุกอย่างเป็นระบบขึ้น

ผลลัพธ์: Codebase ของคุณจะ Clean ทดสอบง่าย และดูแลต่อได้สบายขึ้น

15. Typer (สร้าง CLI แบบไม่เจ็บตัว)

บางครั้ง Backends ก็จำเป็นต้องใช้คำสั่ง CLI แต่ Typer จะช่วยทำให้เรื่องนี้ง่ายชึ้น

ข้อดี: มันเป็นญาติกับ FastAPI มี Auto-Help, Auto-Docs และรองรับ Type Safety

สรุป

และนี่ก็เป็น 15 Python Libraries ที่ช่วยยกระดับการทำงานของ Backend Developer ซึ่งพวกมันจะช่วยให้คุณพัฒนา API ได้เร็วขึ้น, ลดภาระการเขียน Codeที่ซ้ำซ้อน และทำให้ระบบมีความเสถียรมากกว่าเดิม ไม่ว่าคุณจะทำงานด้าน Database, การปรับ Performance หรือการจัดการ Service ขนาดใหญ่ Libraries เหล่านี้คือเครื่องมือที่ Backend Developer ควรเรียนรู้ไว้แล้วนำไปใช้งานจริง

ที่มา: https://medium.com/

 

 

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

เพิ่มเพื่อน

 

บทความล่าสุด