บทความ IT เจ๋งๆ
12 แหล่งเรียน Coding ฟรี! ที่คนไอทีไม่ควรพลาด
21-มิ.ย.-17
คัมภีร์เทพ IT
สำหรับบทความนี้เอาใจคนไอทีที่อยากศึกษาหาความรู้ต่างโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับคนที่กำลังเริ่มศึกษา ทดลอง Coding Program หรือจะเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ห่างหายการจากใช้ทักษะเหล่านี้แล้วอยากจะปัดฝุ่นให้ตัวเอง ก็เหมาะกับการมาทบทวนความรู้เช่นกัน มีที่ไหนที่ให้เรียนกันแบบฟรีๆ บ้าง มาดูกัน!
- Codecademy
เว็บไซต์นี้แทบจะเรียกได้ว่ามีความสมบูรณ์แบบ เพราะมีโครงสร้างเว็บไซต์ที่ผู้เรียนสามารถถามโต้ตอบในบทเรียนต่างๆ ได้ รวมทั้งมีบททดสอบที่จะช่วยให้คุณเข้าใจได้มากยิ่งขึ้น สำหรับเนื้อหาก็มีให้เรียนมากมาย ทั้ง HTML & CSS, JavaScript, SQL และภาษาอื่นๆ อีกมากมาย เป็นต้น แถมยังมี Forum และ Blog ให้คุณได้อ่านได้ศึกษาอีกด้วย
- Freecodecamp
เว็บไซต์ Freecodecamp ถือเป็นเว็บไซต์ที่นอกจากจะเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้เข้ามาเรียนรู้ทักษะด้านไอทีแบบฟรีๆ แล้ว และมีการช่วยเหลือองค์กรที่ไม่หวังผลกำไรอีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวบรวมคนไอทีที่ชอบ Coding อีกด้วย
- Codewars
เป็นเว็บไซต์ที่น่าสนใจทีเดียว เพราะคุณจะสามารถเรียนรู้ทักษะไอทีแบบที่ทำให้คุณสนุกไปด้วย จะช่วยให้คุณได้เรียนรู้พร้อมแก้ปัญหาต่างๆ ไปในตัว มีการจัดอันดับอีกด้วย ถือเป็นการท้าทายความสามารถคุณอยู่ตลอดเวลา
- The Odin Project
สำหรับคนไอทีที่สนใจในการพัฒนาเว็บไซต์ (Web Development) ต้องไม่พลาดเว็บไซต์นี้ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์นี้ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง Viking Code School ที่มีชื่อเสียง แต่ตั้งใจจะให้ The Odin Project เป็น Part ที่ศึกษาฟรีแก่บุคคลทั่วไป นอกจากนี้เป็นแหล่งที่จะให้คุณได้แลกเปลี่ยนความรู้กับคนอื่นๆ อีกด้วย
- HackerRank
เป็นเว็บไซต์ที่มีโปรแกรมเมอร์กว่าล้านคนที่เข้ามาใช้งาน เพื่อที่จะพัฒนาทักษะตนเองโดยการแก้ปัญหาจากโจทย์ต่างๆ ที่มีความสนุกสนาน อีกทั้งมีการแข่งขันกับคนอื่นๆ แล้วเก็บคะแนนเพื่อดูว่าใครจะเป็นสุดยอดของเว็บไซต์ แนวคิดของเว็บไซต์นี้จะเน้นให้ผู้เข้ามาศึกษา “เรียนรู้จากการได้ลงมือทำจริงๆ” ถือเป็นเว็บไซต์ที่น่าสนใจมากอีกเว็บไซต์หนึ่ง
- CodeFights
Concept ของเว็บไซต์นี้มีความคล้ายคลึงเว็บไซต์ HackerRank อยู่เหมือนกันคือ มีการมีการแข่งกันกันแก้ไขปัญหาโจทย์ต่างๆ แบบ real-time แล้วก็แข่งขันกับเพื่อนๆ หรือคนอื่นๆ ได้ด้วย ถ้าคุณชอบเล่นเกม เว็บไซต์นี้น่าจะทำให้คุณติดใจ ด่านแรกๆ จะง่ายและจะยากขึ้นๆ เมื่อเจอด่านที่สูงขึ้น คุณจะไม่รู้สึกเบื่อกับการอยู่ในเว็บไซต์เลย
- edX
เป็นเว็บไซต์ที่คนไอทีไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะเป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมความรู้บทเรียนต่างๆ ที่ครบครันเหมือนอย่างคนที่เรียน MIT หรือ Harvard มีความรู้ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ที่ครอบคลุม แต่หากคุณต้องการ Certificate คุณอาจจะต้องจ่ายเงินประมาณ $50-$90 โดยประมาณ ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากๆ คนที่อยากได้ใบ Certificate
- Upskill
เว็บไซต์นี้เหมาะกับคนที่สนใจด้าน Full-Stack Web Development อย่างแท้จริง แม้ว่าคุณจะไม่มีความรู้พื้นฐานมาเลยก็สามารถมาเรียนรู้จาก Upskill ได้ รูแบบการเรียนเป็นการดูจาก วีดีโอ ซึ่งน่าจะทำให้คุณไม่รู้สึกเบื่อเหมือนการอ่าน
- Khan Academy
Khan Academy ถือเป็นเว็บไซต์ที่มีความครบครันในด้านความรู้ที่หลากหลายจริงๆ เป็นแพลตฟอร์มการศึกษาขนาดใหญ่ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวิชาต่างๆ ทั้งจากคณิตศาสตร์, ดนตรีรวมไปถึงหลักสูตรการเขียนโปรแกรม คุณอาจเริ่มต้นจากการศึกษาในระดับที่ง่ายไปจนถึงระดับ Advance ตามที่คุณต้องการจะเรียนรู้
- MIT OpenCourseware
เป็น Platform การศึกษาที่ช่วยให้คุณเหมือนได้เรียนจาก MIT ได้แบบฟรีๆ มีหัวข้อที่สอนกันในหลักสูตรต่างๆเช่น วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งมักพบในหลักสูตร School of Engineering แต่คุณคงจะต้องพยายามสักหน่อยเพราะมีทั้ง การบ้าน และ Test ต่างๆ ที่คุณจะต้องผ่านมันไปให้ได้
- Coursera
เป็นเว็บไซต์ที่มี Concept คล้ายกับ edX ถือเป็น online library ที่มี class เรียนที่ยอดเยี่ยมหลายแห่งที่สอนโดยอาจารย์จริงๆ (ส่วนใหญ่ผ่านทางวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้า) ที่ดีมากๆ คือ เราสามารถดูการบรรยายได้แบบฟรีๆ แต่คุณอยากรู้ในเชิงลึกๆ หรืออยากมีใบ Certificate อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมด้วย
- Dash-Generalassemb.ly
แถมให้อีก 1 เว็บไซต์ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่สนใจทักษะไอทีที่เกี่ยวข้องกับ Web Development เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น HTML, CSS3 หรือ JavaScript เป็นต้น ใครสนใจแนวนี้ก็ลองมาเรียนรู้ที่นี่ดูนะครับ แต่ต้องสมัครสมาชิกก่อนนะ
หวังว่าคนไอทีทั้งหลายคง เต็มอิ่มกับเว็บไซต์เรียนฟรีเหล่านี้กันนะครับ ทีมงานเทคสตาร์เชื่อมั่นว่า คนไอทีที่หมั่นฝึกฝนและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา จะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น เพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ภาษาคอมพิวเตอร์ที่คุณถนัดในวันนี้ อาจจะล้าสมัยหรืออาจไม่มีใครใช้ในอนาคตก็ได้ ที่สำคัญคือคุณจะได้ไม่ต้องเครียด วิตกกังวล เพราะคุณมีความรู้ภาษาอื่นๆ รองรับไว้อยู่แล้ว จะรอช้าอยู่ไย อ่านบทความนี้แล้ว ก็รีบเข้าไปเรียนรู้กันได้เลยทันทีคร๊าบบบบ
ที่มา: forbes.com
อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ
|
บทความที่เกี่ยวข้อง