10 Features ของ JavaScript ที่แนะนำให้คุณเรียนรู้ไว้

08-มี.ค.-23

คัมภีร์เทพ IT

JavaScript ได้รับการ Upgrade และทำให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มี Features ใหม่ ๆ เกิดขึ้นเรื่อยๆ เพื่อทำให้ Code ของเรา Clean และเขียน Code ได้ดีขึ้น ในบทความนี้ บทความนี้จะมาแนะนำ 10 Features ของ JavaScript ที่แนะนำให้คุณเรียนรู้ไว้

1. String.prototype.replaceAll

replaceAll() จะ Return เป็น String ใหม่ ซึ่งรูปแบบที่ตรงกันทั้งหมดจะถูกแทนที่ด้วยคำที่ต้องการ รูปแบบดังกล่าวสามารถเป็นได้ทั้ง String หรือ Regular Expression และคำที่จะมาแทนที่ สามารถเป็นได้ทั้ง String หรือ Function ที่ Execute สำหรับการจับคู่แต่ละครั้ง

2. ใช้ “BigInt” เพื่อรองรับการคำนวณค่าจำนวนมาก

การใช้ MAX_SAFE_INTEGER ใน JS จะไม่ปลอดภัยในการคำนวณค่าจำนวนมาก ๆ

ปัญหานี้สามารถหลีกเลี่ยงได้อย่างสมบูรณ์โดยใช้ “BigInt”:

3. ใช้ “Object.hasOwn” แทนการใช้ “in” Operator

บางครั้งเราต้องการทราบว่ามี Attribute ยู่ใน Object หรือไม่ และเรามักจะใช้ “in” Operator แต่สิ่งนี้ก็มีข้อบกพร่องเช่นกัน

“in” Operator จะ Return ค่า True หาก Property ที่ระบุอยู่ใน Object หรือ Prototype ของมัน:

แต่คุณสามารถใช้ Object.hasOwn

4. Numeric Separator

ตัว Separator ที่แนะนำให้คุณใช้ก็คือ _ (Underscore) ซึ่งสามารถใช้เพื่อแยกระหว่างกลุ่มของ Values และจะทำให้อ่านง่ายขึ้น

5. String.prototype.trimStart() / String.prototype.trimEnd()

String.prototype.trim() ใช้เพื่อลบ Spaces หรือ การขึ้นบรรทัดใหม่ เป็นต้น ออกจากส่วนหัวและส่วนท้าย และตอนนี้ส่วนหัวและส่วนท้าย จะถูกควบคุมแยกกันด้วยคำสั่ง trimStart(), trimEnd() trimLeft(), trimRight() ซึ่งเป็น Aliases ของพวกมัน

6. Array.prototype.flat() / Array.prototype.flatMap()

การกระจายค่า Arrays ให้อยู่ใน Level เดียวกันเป็น Feature ใหม่ของ Array Prototype ที่ช่วยให้คุณสามารถยก Level ของ Array ที่อยู่ใน Level ต่ำกว่าได้ด้วยการส่งผ่าน Parameter ที่มีระดับความลึก (ค่าเริ่มต้นคือ 1) คุณสามารถเขียนตัวเลขที่มากขึ้นได้หากต้องการเพิ่ม Level ทั้งหมดแต่ก็ไม่แนะนำให้ทำแบบนั้น flatMap() Method จะทำการ Map แต่ละ Element ก่อนโดยใช้ Map Function จากนั้นถึงจะ ทำให้ผลลัพธ์อยู่ใน Level เดียวกันลงใน Array ใหม่

7. เปลี่ยน Catch Parameter ให้อยู่ในรูปแบบเงื่อนไข

ระหว่างการจัดการกับ Errors โดยใช้ Try…Catch นั้น Code จะรายงาน Error หากไม่มีการส่งผ่าน Parameter ให้ตรวจจับ แต่ในรายละเอียดใหม่ เราสามารถละเว้นการผูก Parameter และวงเล็บ กับ Catch ได้

8. Null Merge Operator (??)

เมื่อตัว Operand ทางด้านซ้าย เป็น Null หรือ Undefined มันก็จะ Return ตัว Operand ทางด้านขวา ไม่เช่นนั้น มันจะ Return ตัว Operand ทางด้านซ้าย

9. Optional Chain Operators (?.)

หากคุณเข้าถึง Attribute บน Property ที่ไม่มีอยู่บน Object การใช้ . Operator จะรายงาน Error ได้โดยตรง ส่วนการใช้ ?. จะ Return Undefined

10. Object.fromEntries()

Object.entries จะ Convert Object เป็น key-value pair [key, value] โดย Object.fromEntries() จะถูกใช้เพื่อลด key-value pair ให้เป็นโครงสร้างของ Object

ที่มา: https://javascript.plainenglish.io/

 

 

รับตำแหน่งงานไอทีใหม่ๆ ด้วยบริการ IT Job Alert

 

อัพเดทบทความจากคนวงในสายไอทีทาง LINE ก่อนใคร
อย่าลืมแอดไลน์ @techstarth เป็นเพื่อนนะคะ

เพิ่มเพื่อน

 

บทความล่าสุด